เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ ปราการหลังดีกรีกัปตันทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล สโมสรดังจากพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ พาทัพอัศวินสีส้ม ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ตีตั๋วเข้าสู่รอบรองชนะเลิศศึกชิงแชมป์ทวีปยุโรปได้สำเร็จ
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมนี ยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น และกำลังจะฟาดแข้งกันในรอบรองชนะเลิศเรียบร้อยแล้ว
โดยทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เป็นหนึ่งใน 4 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายของรายการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หลังจากที่พวกเขาเอาชนะ ตุรกี ไปได้แบบหวุดหวิด 2-1 ในการแข่งขันรอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพลิกสถานการณ์หลังจากที่ตอนแรกพวกเขาโดนนำไปก่อน 0-1
ขณะที่คู่ต่อสู้ในรอบตัดเชือกของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ คือ ทัพสิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ อีกหนึ่งทีมเต็งของทัวร์นาเมนต์ โดยจะฟาดแข้งกันในวันที่ 10 ก.ค. นี้
โดยหลังจบการแข่งขันเกมดังกล่าวทาง เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ ปราการหลังกัปตันทีมลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นกัปตันทีม ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ด้วย ให้สัมภาษณ์ถึงชัยชนะเหนือตุรกี ว่า
“เราเริ่มต้นได้ไม่ดี และเสียบอลในจังหวะที่อันตราย แต่มันก็แค่ไม่กี่ครั้ง นอกเหนือจากนั้นเราก็ไม่ได้พลาดอะไรมาก”

“ครึ่งหลัง เราพยายที่จะใจเย็นและคว้าโอกาสที่เข้ามา และเราทำมันได้”
“คุณก็เห็นวิธีที่ทุกคนตอบโต้และทำงานร่วมกัน เราทำทุกอย่างที่ควรทำด้วยการสกัดและป้องกัน ตอนนี้มันเป็นเวลาที่ต้องฟื้นฟูร่างกายและเตรียมตัวสำหรับอีกเกมที่ยากลำบาก (เจอกับอังกฤษ ในวันที่ 10 ก.ค.)”
ขณะที่ โรนัลด์ คูมัน เฮดโค้ชทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เผยถึงลูกทีมและชัยชนะในแมตช์นี้ ว่า
“มันเป็นฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม นี่เป็นอะไรที่พิเศษสำหรับคนทั้งประเทศ เราเป็นประเทศเล็ก ๆ และเราผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพร้อมกับอังกฤษ, ฝรั่งเศส และสเปน พวกเราภูมิใจอย่างมาก มันไม่เคยมีเกมที่ง่าย เป็นเกมที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ และเรามีจิตใจที่ยิ่งใหญ่”
ส่วนการพบกับทีมชาติอังกฤษ เจ้าตัวเผยว่า “อังกฤษมีนักเตะที่ดีมากมาย แต่เราก็มีเช่นกัน เราเข้ารอบรองชนะเลิศชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ไม่มีใครคาดคิดเรื่องนั้น หากทุกอย่างไปได้สวย เราจะได้เล่นอีก 2 เกม”
ทั้งนี้จากการที่ทีมชาติเนเธอร์แลนด์จะต้องพบกับทีมชาติอังกฤษในรอบรองชนะเลิศ ทำให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ จะต้องไปดวลกับเพื่อนร่วมสโมสรลิเวอร์พูลอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่เป็นหนึ่งในขุนพลทัพสิงโตคำราม
104 total views