บทความลิเวอร์พูล 7 นักเตะ ลิเวอร์พูลอาจโละทิ้งซัมเมอร์นี้
ในฤดูกาลที่ไม่ค่อยปกตินี้ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ได้ตัดสินใจแปลกๆ อยู่หลายครั้ง และมักจะมองข้ามผู้เล่น 7 คน ซึ่งอาจบอกเป็นนัยว่า เขามีแผนจะโละผู้เล่นเหล่านี้
มีการประชดประชันกันว่า “ลิเวอร์พูล” ไม่สมควรจะได้แชมป์ในฤดูกาล 2019-20
จริงอยู่ที่ว่า การแพร่ระบาดของโควิดไปทั่วโลก และการชะงักงันของวงการฟุตบอลทำให้มุมมองต่อฤดูกาลดังกล่าวค่อนข้างจะแตกต่างออกไป
ทีมจ่าฝูงอย่าง “ลิเวอร์พูล” ได้โกยแต้มทิ้งห่างอย่างไม่เห็นฝุ่นไปแล้วก่อนหน้าที่จะมีการกลับมาเตะกันใหม่ ซึ่ง ณ เวลาดังกล่าว ทีมต่างๆ มีการลงเล่นไปแล้วถึง 2 ใน 3 ของฤดูกาล
นั่นเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในฤดูกาล 2020-21 นี้
แฟนบอล “ลิเวอร์พูล” ก็คงต้องยอมรับตำแหน่งแชมป์ที่กำลังมาถึงของ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ซึ่งบางทีเราควรจะต้องตั้งคำถามตัวเราเองถึงปีที่แสนจะวุ่นวายนี้
ปัญหาการบาดเจ็บ VAR และการไม่มีแฟนบอลเข้าชม มีส่วนอย่างชัดเจนในการพลาดการป้องกันแชมป์ของ “ลิเวอร์พูล” แต่ก็ต้องยอมรับว่า บ่อยครั้งที่เราเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่เคยทำได้
พูดง่ายๆ ก็คือ มีนักเตะหลายคนที่มีฟอร์มอันย่ำแย่ แม้กระทั่งตัวผู้จัดการทีมด้วยเช่นกัน
“เจอร์เก้น คล็อปป์” ถือว่าเป็น “ผู้ที่สามารถแตะต้องไม่ได้” ณ สโมสร “ลิเวอร์พูล” แห่งนี้ เนื่องจากเขาเป็นผู้นำมาซึ่งความสำเร็จ ที่เคยไกลเกินฝัน และตำนานความยิ่งใหญ่ของเขาจะคงอยู่กับสโมสรตลอดไป ในฐานะบุรุษผู้ทำให้การรอคอยสิ้นสุดลง
ถึงกระนั้น เขาก็ไม่ควรจะอยู่เหนือการวิพากษ์วิจารณ์มิใช่หรือ???
ตั้งแต่เริ่มฤดูกาลแล้วที่ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันรายนี้ดูจะไม่ปกติ การมีโต้เถียงกับผู้จัดการทีมอื่น การมีปัญหากับนักข่าว และการตั้งข้อสงสัยในการประท้วงของแฟนบอลนั้นค่อนข้างจะไม่เหมือนกับนิสัยของเขาสักเท่าใด ซึ่งยังไม่รวมถึงการจัดแท็คติกในสนามเสียด้วยซ้ำ
แม้จะเคยได้รับการยกย่องถึงการเปลี่ยนตัวผู้เล่นอันเฉียบขาด แต่ในช่วงสัปดาห์หลังๆ มีหลายครั้งทีเดียวที่การเปลี่ยนตัวผู้เล่นของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ได้ทำให้ทีมเล่นแย่ลง
แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางแท็คติกบ้างในช่วงหลังๆ แต่ก็เป็นที่ถกเถียงกันว่า เขายึดติดกับระบบ 4-3-3 มากเกินไปหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้ทีมขาดความยืดหยุ่น และส่งผลต่อการจัดตัวผู้เล่นอีกด้วย
แท้จริงแล้ว หนึ่งในประเด็นที่มีการพูดถึงมากที่สุดในฤดูกาลอันย่ำแย่ของ “ลิเวอร์พูล” ก็คือ การขาดความเชื่อมั่นในตัวผู้เล่นบางคนของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอนาคตในสโมสรแห่งนี้ของพวกเขาจะต้องถูกตั้งคำถามอย่างแน่นอน
และต่อไปนี้คือ 7 นักเตะที่ว่ากันว่าได้ถูกละเลยมาเป็นเวลานาน…
อเล็กซ์ อ็อกซเลด แชมเบอร์เลน
ลงเล่น 14 นัด
จำนวนนาทีที่ลงเล่น 274
เป็นตัวจริงนัดล่าสุด 21 มกราคม 2021 (พบ “เบิร์นลี่ย์ “)
มันเป็นฤดูกาลที่เต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บรบกวนสำหรับ “อ็อกซเลด แชมเบอร์เลน”
ต้องยอมรับว่า เขาห่างเหินจากทีมไปในช่วงเดือนสิงหาคม-ธันวาคม แต่เขาก็กลับมาฟิตสมบูรณ์ได้ 4 เดือนเต็มเข้าไปแล้ว แต่เขากลับได้ลงเป็นตัวจริงเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “เจอร์เก้น คล็อปป์” ได้หันไปใช้งาน “อ็อกซเลด” เพื่อเติมพลังในแดนกลาง แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว เกมในบ้านที่พบกับ “เอฟเวอร์ตัน” และ “ฟูแล่ม” เขาเป็นเพียงตัวสำรองที่ไม่ถูกใช้งาน
การลงเล่นสั้นๆ ในเกมที่พบกับ “วูล์ฟส์ บอกเป็นนัยว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น เมื่อมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ออกจากม้านั่งสำรองเลยในอีก 3 เกมถัดมา
“อ็อกซเลด แชมเบอร์เลน” ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครั้งสุดท้ายเมื่อ 21 มกราคม ซึ่ง “ลิเวอร์พูล” แพ้ถึง 8 เกมตั้งแต่นั้น และเขายังไม่ได้ใกล้เคียงกับการลงเป็นตัวจริงอีกเลย
การเปลี่ยนตัว “ติอาโก้” ออกในเกมที่พบกับ “นิวคาสเซิล” ได้บอกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี “อ็อกซเลด แชมเบอร์เลน” ได้เพียงแต่ดู “เคอร์ติส โจนส์ ” ได้รับความไว้วางใจลงสนาม แทนที่จะเป็นตัวเขา ซึ่งนั่นเป็นการมีส่วนร่วมกับทีมเป็นครั้งแรกของเจ้าเด็กหนุ่มอีกด้วย
ถ้าจะบอกว่าในบรรดามิดฟิลด์ด้วยกัน “อ็อกซเลด แชมเบอร์เลน” เป็นตัวเลือกอันดับท้ายๆ ในการลงสนาม ก็คงไม่ผิดนัก
นาบี้ เกอิต้า
ลงเล่น 16 นัด
จำนวนนาทีที่ลงเล่น 714
เป็นตัวจริงนัดล่าสุด 6 เมษายน (พบ “เรอัล มาดริด”)
เช่นเดียวกับ “อ็อกซเลด แชมเบอร์เลน” “เกอิต้า” ต้องประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บ ซึ่งแม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่พอสมควร เขาก็ยังคงได้รับความไว้วางใจจาก “เจอร์เก้น คล็อปป์” ในการรรับบทเพลย์เมกเกอร์ของทีม จนกระทั่งนัดที่พบกับ “เรอัล มาดริด”…
การตัดสินใจอันกล้าหาญแต่ดูไร้เหตุผลของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ในการให้เขาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมที่ใหญ่สุดของฤดูกาลได้ส่งผลอย่างชัดแจ้ง และเป็นที่ประจักษ์แล้วว่านั่นได้เปลี่ยนความคิดของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ต่อ “นาบี้ เกอิต้า” ไปอย่างสิ้นเชิงอีกด้วย
นักเตะทีมชาติกีนีรายนี้ ไม่ได้ลงเล่นอีกเลย แม้กระทั่งจากม้านั่งสำรอง
ฟอร์มการเล่นในนัดที่พบกับ “มาดริด” นั้นห่างไกลจากที่คาดหวังไว้มาก โดยเขาขาดความเฉียบคมในการเล่นอย่างสิ้นเชิง
ปัญหาก็คือ ในทางแท็คติกฟอร์มการเล่นของเขาคล้ายคลึงกับในนัดที่แพ้ “แอสตัน วิลล่า” 7-2 ซึ่งนั่นเป็นอีกนัดหนึ่งที่เขาเล่นไม่ออกเลย
เหตุการณ์เช่นนี้ทำให้ผู้จัดการทีมอย่าง “เจอร์เก้น คล็อปป์” รู้สึกว่า เขาไม่สามารถคุมเกมได้ ซึ่งบางที การขาดวินัยในการเล่นของ “เกอิต้า” ทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่เสี่ยงเกินไปที่จะให้ลงเล่น
คอสตาส ซิมิคาส
ลงเล่น 6 นัด
จำนวนนาทีที่ลงเล่น 225
เป็นตัวจริงนัดล่าสุด 9 ธันวาคม 2020 (พบ “มิดทิลแลนด์”)
หากไม่ใช่เพื่อมาเป็นกองหลังตัวแบ็คอัพ การเซ็นสัญญากับ “ซิมิคาส” นับเป็นเรื่องแปลกไม่น้อย
นักเตะกรีกรายนี้มาพร้อมกับสถานะเบื้องหลังอันสวยหรู เขาเพิ่งคว้าแชมป์ในประเทศได้สำเร็จ และได้เข้ารอบลึกๆ ในรายการยูโรป้าลีกกับ “โอลิมเปียกอส”
โควิด-19 ทำให้ช่วงปรีซีซั่นของเขาต้องหยุดชะงัก ในขณะที่การบาดเจ็บต้นขาและหัวเข่า ทำให้เขาต้องหยุดพักเป็นเวลาถึง 3 เดือน หลังจากที่เขากลับมา อะไรๆ น่าจะดีขึ้นสำหรับเขา
แต่ความเป็นจริง มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ฟูลแบ็ครายนี้เพิ่งได้ลงเล่นเพียง 6 นัด ตลอดฤดูกาล ซึ่งเป็นเพียงนัดเดียวในลีก
มีการพึ่งพา “แอนดี้ โรเบิร์ตสัน” มากเกินไป ซึ่งเริ่มต้นฤดูกาลได้ดี แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะเริ่มหมดความกระตือรือร้น
แต่ใครจะกล้าตำหนิเขาได้? เขานั่งที่ม้านั่งสำรองเพียง 35 นาทีเท่านั้นตลอดฤดูกาล
“คอนตาส ซิมิคาส” แม้จะเป็นที่ชื่นชอบ แต่เขานับว่าล้มเหลวไม่น้อยในการปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การเล่นของ “ลิเวอร์พูล”
เซอร์ดาน ชากิรี่
ลงเล่น 21 นัด
จำนวนนาทีที่ลงเล่น 788
เป็นตัวจริงนัดล่าสุด 7 มีนาคม 2021 (พบ “ฟูแล่ม”)
“เซอร์ดาน ชากิรี่” ได้รับคำวิจารณ์แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง แต่ส่วนใหญ่ก็เชื่อว่า หากเขาท็อปฟอร์ม เขาจะสามารถสร้างความแตกต่างในเกมได้
ซึ่งโดยปกติเขาจะงัดฟอร์มเก่งจากการเป็นตัวสำรอง การยากจะคาดเดาในฟอร์มการเล่นของ “ชากิรี่” ทำให้เขาได้ลงเป็นตัวจริงเพียงไม่กี่นัดหลังจากปีใหม่
ในตอนนี้ดูเหมือนว่า “การทดลอง” ของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว และจะไม่มีการทดลองอะไรอีก
เช่นเดียวกับในกรณีของ “เกอิต้า” “ชากิรี่” เป็นที่ทราบกันดีกว่าน่าจะไม่ได้รับโอกาสอีกแล้ว คุณอาจจะรู้สึกประทับใจในการเล่นอย่างสร้างสรรค์ของเขา ซึ่งในบางครั้งเขาก็เล่นได้คุ้มค่าตัวจริงๆ
การผ่านบอลอันเฉียบคมของเขานำไปสู่ประตูตัดสินเกมในนัดที่พบกับ “มิดทิลแลนด์ ” และ “เวสต์แฮม” ในช่วงต้นฤดูกาล และลูกครอสให้กับ “โม ซาล่าห์ ” ในเดือนมกราคมก็นับเป็นลูกแอสซิสต์แห่งฤดูกาลลูกหนึ่งเลยทีเดียว
แม้กระทั่งในชัยชนะเมื่อเร็วๆ นี้เหนือ “แอสตัน วิลล่า” การประสานกับ “ติอาโก้” ของเขาทำให้เกิดความสับสนของกองหลังในกรอบเขตโทษ และสุดท้ายนำไปสู่ลูกยิงสุดสวยของ “เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ “
แม้จะสร้างความประทับใจได้ไม่น้อย แต่ “เซอร์ดาน ชากิรี่” ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมเดียวเท่านั้นตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์
ดังนั้นคงมีเพียงไม่กี่คนที่คิดว่า ดาวเตะชาวสวิสรายนี้จะยังคงอยู่ที่แอนฟิลด์ต่อไปหลังจากจบซัมเมอร์
ดิว็อค โอริกี้
ลงเล่น 17 นัด
จำนวนนาทีที่ลงเล่น 536
เป็นตัวจริงนัดล่าสุด 3 กุมภาพันธ์ 2021 (พบ “ไบรท์ตัน”)
“ดิว็อค โอริกี้” มีชื่อเสียงในฐานะบุรุษสำหรับเกมสำคัญๆ มันน่าเศร้าที่จะคิดว่าเส้นทางค้าแข้งของเขาที่ “ลิเวอร์พูล” กำลังจะจบลง
เขาห่างจากสนามไปจากการบาดเจ็บกล้ามเนื้อตั้งแต่เดือนมีนาคม “โอริกี้” ได้รับความไว้วางใจน้อยมาก แม้กระทั่งในฤดูกาลที่บรรดากองหน้าของ “ลิเวอร์พูล” พากันยิงนกตกปลาเช่นนี้
ในขณะที่แฟนบอลหลายต่อหลายคนยังคงตราตรึงกับช่วงเวลาอันยอดเยี่ยมของเขา แต่การที่เขาแทบไม่ได้ลงเล่นเลยทำให้เกิดคำถามว่าทำไมเขาถึงยังคงอยู่กับสโมสร
นักเตะชาวเบลเยี่ยมรายนี้ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพียง 6 นัดเท่านั้นในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ และทำได้เพียง 1 ประตูในลีกคัพ เขาเป็นตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนามถึง 18 นัดในฤดูกาลนี้
เขาอาจจะเป็นตำนาน แต่ “โอริกี้” เป็นอีกรายที่ไม่น่าจะมีที่ว่างในสโมสรแห่งนี้อีกแล้ว
เบน เดวี่ส์
ลงเล่น 0 นัด
จำนวนนาทีที่ลงเล่น 0
เป็นตัวจริงนัดล่าสุด –
การที่รายชื่อผู้เล่นของแต่ละนัดผ่านไปโดยไม่มีชื่อของ “เดวี่ส์ ” คงทำให้คุณอดสงสัยไม่ได้ว่า เขาอาจถูกเซ็นสัญญาเข้ามาเพื่อการทำกำไรเท่านั้น
แม้ว่านั่นอาจจะฟังดูสมเหตุสมผลในแง่ธุรกิจ แต่การปฏิบัติต่อมนุษย์เหมือนเป็นสินค้าตัวหนึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
การซื้อตัวกองหลังของ “เปรสตัน” รายนี้มาด้วยราคาเพียง 500,000 ปอนด์ อาจทำให้เจ้าของทีม “ลิเวอร์พูล” นึกภาพถึงการขายแบบอัพราคาในช่วงซัมเมอร์นี้
แน่นอนว่าอาจจะมีปัจจัยอย่างอื่นที่เป็นไปได้เช่นกัน
ปัจจัยแรกก็คือ ผู้จัดการทีมอาจจะกำลังเล่นการเมือง โดยการปฏิเสธที่จะเลือกใช้งานผู้เล่นที่เขาไม่สนใจจะเซ็นสัญญาตั้งแต่แรก
อีกปัจจัยก็คือ เขาอาจจะฝีเท้าไม่เข้าขั้นจริงๆ เลยก็ได้ เขาย้ายมาจากทีมกลางตารางในลีกแชมเปี้ยนชิพ บางทีนั่นจะอาจจะเป็นระดับที่แท้จริงของเขาก็เป็นได้
ทาคุมิ มินามิโนะ
ลงเล่น 17 นัด
จำนวนนาทีที่ลงเล่น 743
เป็นตัวจริงนัดล่าสุด 8 มกราคม 2021 (พบ “แอสตัน วิลล่า”)
ผู้เล่นคนสุดท้ายที่อาจจะไม่มีโชคชะตาร่วมกับทีมอย่าง “ลิเวอร์พูล” ก็คือ “ทาคุมิ มินามิโนะ” ซึ่งเขาไม่เพียงถูกกีดกันออกจากรายชื่อนักเตะตัวจริงในแต่ละนัดเท่านั้น แต่เขาถึงกับโดนปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวออกไปเสียด้วย
นักเตะทีมชาติญี่ปุ่นรายนี้ใช้เวลานานกว่าที่คาดหวังในการปรับตัวให้เข้ากับพรีเมียร์ลีกที่เล่นกันอย่างหนักหน่วง เขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงและทำประตูได้ในเกมที่พบกับ “คริสตัล พาเลซ” แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า นั่นเป็นเวลาที่ดีที่สุดในฤดูกาลของเขาแล้ว
เกมดังกล่าวเล่นกันเมื่อ 19 ธันวาคม 2020 ในช่วงหลังจากนั้นจนกระทั่งการย้ายทีมไปสู่ “เซาแธมป์ตัน” ในวันที่ 31 มกราคม 2021 เขาได้ลงเล่นเพียง 6 นาทีเท่านั้นในนัดพบกับ “เบิร์นลี่ย์ ในแอนฟิลด์
การหาฟอร์มเก่งไม่เจอของ “โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่” และ “ซาดิโอ มาเน่” และอาการบาดเจ็บของ “ดิโอโก้ โชต้า” ทำให้การปล่อยยืมตัว “มินามิโนะ” เป็นสิ่งที่ยังคงอธิบายไม่ได้
ไม่ว่า “มินามิโนะ” จะถูกตัดชื่อออกจากแผนการทำทีมของ “ลิเวอร์พูล” หรือไม่ แต่เขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาสามารถเป็นตัวเลือกในแนวรุกที่ไว้ใจได้ ยามที่ทีมทำประตูกันไม่ได้
การยกเครื่องในช่วงซัมเมอร์???
มันคงจะดีไม่น้อย หากเราได้รู้ความรู้สึกที่แท้จริงของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ต่อนักเตะที่ถูกลืมเหล่านี้
แม้จะไม่มีใครคาดหวังว่า พวกเขาเหล่านี้จะช่วยให้ “ลิเวอร์พูล” กลับมาลุ้นแชมป์ได้ แต่นักเตะเหล่านี้ก็สามารถมีส่วนร่วมในช่วงเวลาที่มืดมนของเราได้
ตัวผู้จัดการทีมอย่าง “เจอร์เก้น คล็อปป์” ได้ระบุว่าต้นตอแห่งปัญหาทั้งมวลเกิดจากการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักเป็นจำนวนมาก แต่เขาก็ยังปฏิเสธที่จะให้ผู้เล่นที่เหลือได้รับโอกาส
อันที่จริง ความเป็นไปได้อีกอย่างก็คือ “เจอร์เก้น คล็อปป์” อาจจะล้มเลิกความคิดที่จะใช้งานนักเตะบางคน และนั่นนำไปสู่คำถามเกี่ยวกับความลึกของทีมในการกรำศึกตลอดฤดูกาล
การขาดศรัทธาในตัวผู้เล่นที่เหลือในทีมได้นำไปสู่การใช้งาน “ซาดิโอ มาเน่, โรเบิร์ตสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟีร์มีโน่ และ ไวจ์นัลดุม” อย่างหนักเกินไป และส่งผลให้เกิดผลลัพธ์อันไม่พึงประสงค์อย่างที่เห็นกัน
คำถามก็คือ หากจะมุ่งหน้าสู่ฤดูกาลหน้า เราควรจะทำเช่นไร
การคว้าตัวผู้เล่นชั้นยอดที่สามารถเติมเต็มทีมได้อย่างเป็นรูปธรรมนั้นใช้เงินมหาศาล ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ “ลิเวอร์พูล” ไม่มี และดูจะเป็นเรื่องเพ้อฝันในสภาวะตลาดเช่นนี้
ในโลกแห่งความเป็นจริงก็คือ ควรจะกลับมาใช้งานนักเตะที่ถูกทอดทิ้งไว้เบื้องหลัง
แต่ความไม่แยแสของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ตลอดฤดูกาลได้แสดงให้เห็นว่า เขามีความมุ่งมั่นจะที่จะยกเครื่องผู้เล่นของทีมเสียมากกว่า
หากเป็นเช่นนั้น การขายนักเตะที่ไม่ได้ใช้งานออกไป ก็อาจจะช่วยสโมสรระดมทุนเพื่อการนี้ได้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สัญญาณทั้งหมดได้บ่งชี้ถึงการสร้างทีมใหม่ในช่วงฤดูร้อนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
a
คุณอาจสนใจ :
ข้อมูลนักเตะลิเวอร์พูล
ตำนานสนามแอนฟิลด์
ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ทำเนียบแชมป์
ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล
a
Our References :
735 total views, 1 views today