ข่าวลิเวอร์พูล โหมโรงก่อนระเบิดศึกยูโร กลุ่ม D
สำหรับบรรดาแฟนบอล “อังกฤษ” สายตาทุกคู่คงจะจับจ้องอยู่ที่กลุ่ม D ซึ่งจะเป็นการพบกันของคู่ปรับที่เก่าแก่ที่สุดของโลกฟุตบอล
การพบกันครั้งแรกของ “อังกฤษ” และ “สก็อตแลนด์ ” ในเกมอย่างเป็นทางการครั้งแรก ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1872
หลังจากนั้น 149 ปี พวกเขากำลังจะพบกันอีกครั้ง และหวังว่ามันจะเป็นเกมที่น่าตื่นตาตื่นใจมากกว่าครั้งแรก ที่เกมจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 ต่อหน้าแฟนๆ 4,000 คน
บางทีเราอาจจะได้ผลลัพธ์เช่นเดิม ด้วยการจำกัดจำนวนผู้ชม จากภาวะโรคระบาด
a
นักเตะ “ลิเวอร์พูล” ในกลุ่ม D
กัปตันของพวกเรา “จอร์แดน เฮนเดอร์สัน” สวมเสื้อหมายเลข 8 ให้กับ “ทีมชาติอังกฤษ” และจะทำหน้าที่เป็นรองกัปตันทีม หลังจากได้แสดงความฟิตเป็นเวลา 45 นาที ในเกมอุ่นเครื่องกับ “โรมาเนีย”
โดยใน “ทีมชาติอังกฤษ” ยังมี “ราฮีม สเตอร์ลิง” และ “คอนเนอร์ โคดี้” ในฐานะอดีตนักเตะ “ลิเวอร์พูล” รวมอยู่ด้วย ในขณะที่ “เดยัน ลอฟเรน”จะลงเล่นให้กับ “โครเอเชีย”
นอกจากนั้น “แอนดี้ โรเบิร์ตสัน” ยังนับเป็นความภาคภูมิใจของ “ลิเวอร์พูล” ในฐานะกัปตันทีมของ “สก็อตแลนด์ ” อีกด้วย
โปรแกรมการแข่งขัน
13 มิถุนายน – อังกฤษ VS โครเอเชีย
14 มิถุนายน – สก็อตแลนด์ VS สาธารณรัฐเชค
18 มิถุนายน – โครเอเชีย VS สาธารณรัฐเชค
18 มิถุนายน – อังกฤษ VS สก็อตแลนด์
22 มิถุนายน – โครเอเชีย VS สก็อตแลนด์
22 มิถุนายน – สาธารณรัฐเชค VS อังกฤษ
a
อังกฤษ
รอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นที่สนามเวมบลีย์ “อังกฤษ” จะอยู่ที่นั่นหรือไม่?
กลุ่ม D นี้ไม่น่าจะหนักเกินไปที่ “ทีมชาติอังกฤษ” จะผ่านไปได้ แต่เราไม่ค่อยเห็น “ทีมสิงโตคำราม” เอาชนะทีมหัวแถวของโลกสักเท่าไหร่ หากไม่ใช่รอบคัดเลือก เกมกระชับมิตร หรือเนชั่นส์ลีก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า “อังกฤษ” มีผู้เล่นพรสวรรค์สูงอยู่ด้วยหลายคน แต่ก็ยังมีกองหลังที่ไร้ประสบการณ์ในระดับนานาชาติ และผู้จัดการทีม ผู้ซึ่งในบางครั้งดูเหมือนจะไม่ค่อยอยากเป็นผู้ชนะสักเท่าไหร่
“อังกฤษ” ยังไม่เคยเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในรายการนี้เลย นับตั้งแต่ปี 1996 ซึ่งเป็นปีที่ตัวผู้จัดการทีมเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค และยิงจุดโทษลูกตัดสินพลาด
a
ผู้ที่น่าจับตามอง
แฮร์รี่ เคน – เขาเป็นดาวยิงระดับท็อป ซึ่งสามารถผลิตสกอร์ได้เป็นกอบเป็นกำ “ทีมชาติอังกฤษ” ต้องหวังให้ศูนย์หน้าจาก “สเปอร์ ” รายนี้ เค้นฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาให้ได้
จาดอน ซานโช่ – จะเป็นตัวสนับสนุนที่ดีที่สุด หากสามารถโน้มน้าว “แกเร็ธ เซาธ์เกท” ให้จัดตัวเขาลงเล่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขากลับมาเล่นได้อย่างร้อนแรงกับ “โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ” ในช่วงท้ายฤดูกาล
จอห์น สโตนส์ – เมื่อ “แม็คไกวร์ ” และโฮลดิ้งมิดฟิลด์ทั้ง 3 คน ได้รับบาดเจ็บ จึงเหลือเพียง “จอห์น สโตนส์ ” เท่านั้น ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ผ่านมา
a
คำทำนาย
“ทีมชาติอังกฤษ” น่าจะเอาตัวรอดจากรอบแบ่งกลุ่มได้ แต่เมื่อดูจากเส้นทาง พวกเขาน่าจะเข้าไปเจอกับทีมใหญ่ในรอบ 16 ทีม และตกรอบในที่สุด
a
โครเอเชีย
โชคชะตาของ “โครเอเชีย” ตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว จากทีมรองแชมป์โลก กลายเป็นทีมที่มักจะถูกมองข้าม
ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่พวกเขาทำผลงานได้ดีเกินจริงในปี 2018 และจากการที่ “อีวาน ราคิติช” ได้ประกาศเลิกเล่น โดยผลงานและความคงเส้นคงวาของพวกเขาก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน
“โครเอเชีย” จบรอบคัดเลือกในฐานะแชมป์กลุ่มก็จริง แต่พวกเขาชนะเพียง 5 จาก 8 เกม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการชนะทีมที่ต่ำชั้นกว่า นอกจากนั้นพวกเขายังทำได้เพียงเสมอกับ “อาร์เมเนีย” ซึ่งนั่นสามารถบ่งบอกได้ว่า พวกเขาได้สูญเสียออร่าและความมั่นใจไปเสียแล้ว
a
ผู้ที่น่าจับตามอง
ลูก้า โมดริช – ยังคงมีอิทธิพลในแดนกลาง แต่ด้วยวัย 35 ปี จึงจำเป็นต้องมีผู้เล่นที่สามารถทำงานหนักรอบตัวเขา และปล่อยให้เขาเป็นผู้บัญชาเกม อย่างไรก็ตาม สำหรับดาวเตะแห่ง “เรอัล มาดริด” ผู้นี้ พรสวรรค์ของเขามิได้ลดน้อยลงไปเลยแม้แต่นิดเดียว
มาร์เซโล่ โบรโซวิช – เป็นหนึ่งในขุนพลผู้อยู่เคียงข้าง “โมดริช” เขามีฤดูกาลอันยอดเยี่ยมกับ “อินเตอร์ มิลาน” โดยเล่นเป็นป้อมปราการหน้าแนวรับ เขาเล่นได้อย่างดุดัน ด้วยทักษะความสามารถอันน่าทึ่ง
อังเดร ครามาริช – หากเขาท็อปฟอร์ม เขาจะมีความน่ากลัวเป็นอย่างมากในการเข้าทำประตู และ “โครเอเชีย” จะกลายเป็นทีมที่อันตรายมากทีมหนึ่งเลยทีเดียว
a
คำทำนาย
“ทีมตราหมากรุก” น่าจะผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้อย่างไม่ยากเย็น แต่พวกเขาจะเข้าไปพบกับคู่ปรับเก่าในปี 2018 ซึ่งพวกเขาจะแพ้อีกครั้ง และตกรอบแปดทีมสุดท้าย
a
สก็อตแลนด์
เรื่องการเล่นด้วยหัวใจและความมุมานะ “สก็อตแลนด์ ” นั้นไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่สิ่งที่น่าจะเป็นปัญหาของพวกเขาก็คือ การทำประตู
ในรอบคัดเลือก พวกเขาทำได้เพียง 16 ประตู จากการลงเล่น 10 เกม ซึ่งเป็นการยิงทีมอย่าง “ไซปรัส, คาซัคสถาน และซานมาริโน”
“สก็อตแลนด์ ” ต้องผ่านการเล่นเพลย์ออฟของเนชั่นส์ลีก ในการตีตั๋วสู่ฟุตบอลยูโรรอบสุดท้าย ซึ่งพวกเขาจะไม่ให้ความพยายามต้องสูญเปล่าอย่างแน่นอน เพียงแต่ “สตีฟ คลาร์ค” ยังหาสูตรสำเร็จในเกมบุกไม่เจอ
พวกเขามีเพียงผู้เล่นคนเดียวเท่านั้นในทีมที่ยิงได้ 10 ประตู ในระดับชาติ และผู้เล่น 11 จาก 26 คน ติดทีมชาติน้อยกว่า 8 นัด
a
ผู้ที่น่าจับตามอง
คีแรน เทียร์นี่ย์ – เขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ “แอนดี้ โรเบิร์ตสัน” โดยพวกเขาประสานงานกันที่ฝั่งซ้ายของแนวรับ โดยผู้เล่น “อาร์เซน่อล” รายนี้ยืนเป็นเซ็นเตอร์ฝั่งซ้ายในแผงหลังสามคนของ “สก็อตแลนด์ “
จอห์น แม็คกินน์ – มิดฟิลด์จาก “แอสตัน วิลล่า” รายนี้ โดดเด่นในการพาบอลบุกขึ้นไปข้างหน้า เขามักจะหาจังหวะยิงไกลได้อย่างสม่ำเสมอ
สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ – เป็นหนึ่งในผู้เล่นไม่กี่คนที่เล่นได้อย่างสุดยอดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเขาจะเป็นผู้ควบคุมเกม และช่วยลำเลียงบอลขึ้นจากแนวรับ “สก็อตแลนด์ ” จะต้องหวังพึ่งพลังงานและความทุ่มเทในทุกๆ อณูจากนักเตะรายนี้
a
คำทำนาย
ตกรอบแบ่งกลุ่ม
a
สาธารณรัฐเชค
ผู้เล่น “ทีมชาติเชค” มาจากสโมสรในพื้นที่อันหลากหลาย โดยมี 11 คน ที่เล่นอยู่ในลีกของเชค, 4 คน เล่นอยู่ในอังกฤษ และที่เหลือเล่นอยู่ในกรีซ, อิตาลี, สเปน, โปแลนด์ และเยอรมัน
“สาธารณรัฐเชค” มีผู้เล่นพรสวรรค์อยู่เช่นกัน แต่พวกเขาต้องการการจัดระบบทีมที่ดีกว่านี้ หากต้องการสร้างความประหลาดใจในฟุตบอลรายการนี้
พวกเขาจบเป็นอันดับ 2 ในรอบคัดเลือก โดยเป็นรอง “อังกฤษ” ถึง 6 คะแนน หลังจากแพ้ถึง 3 ใน 8 เกม อย่างไรก็ตาม พวกเขาสามารถเอาชนะลูกทีมของ “เซาธ์เกท” ได้หนึ่งนัด
a
ผู้ที่น่าจับตามอง
โทมัส วาซลิค – มีฟอร์มการเล่นอันน่าประทับใจกับ “เซบีญ่า” นายด่านผู้นี้ไว้ใจได้เสมอ ออกไปตัดบอลได้ดี นิ่งเมื่อต้องดวลหนึ่งต่อหนึ่ง และเซฟลูกยิงได้อย่างยอดเยี่ยม
โทมัส ซูเช็ค – นับว่าเป็นคู่แข่งของ “แน็ท ฟิลลิปส์” ในการดวลลูกกลางอากาศ มักทำประตูจากลูกตั้งเตะ ยากที่แนวรุกของคู่แข่งจะผ่านไปได้
วลาดิเมียร์ ดาริด้า – มิดฟิลด์แห่ง “แฮร์ธ่า เบอร์ลิน” รายนี้ ทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมของ “สาธารณรัฐเชค” ผู้ซึ่งมีความมุ่งมั่นและทุ่มเทให้กับทุกตารางนิ้วของสนาม
a
คำทำนาย
ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
คุณอาจสนใจ :
ข้อมูลนักเตะลิเวอร์พูล
ตำนานสนามแอนฟิลด์
ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ทำเนียบแชมป์
ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล
a
Our References :
1,937 total views, 1 views today
