“โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์” เครื่องจักรถล่มประตูแห่งแอนฟิลด์
“โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ ” ยังคงตอกย้ำว่าเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของ “ลิเวอร์พูล” หลังจากพาทีมผ่านพ้นฤดูกาลที่แสนจะยุ่งยากมาได้
กลายเป็นเรื่องปกติของ “ราชันแห่งอิยิปต์ ” ผู้นี้ไปแล้ว เกี่ยวกับข่าวลือการย้ายทีมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีบรรดายักษ์ใหญ่ในยุโรปมาคอยพัวพันราวกับนกแร้ง
อย่างไรก็ตาม “ซาล่าห์ ” ก็ยังคงอยู่ที่แอนฟิลด์ ฤดูกาลแล้วฤดูกาลเล่า ซึ่งเขาได้รับการยอมว่าเป็นผู้เล่นที่สำคัญยิ่งในทีมของ “เจอร์เก้น คล็อปป์”
ฤดูกาลอาจจะมิได้จบลงอย่างสมบูรณ์แบบอย่างที่ “ลิเวอร์พูล” ตั้งเป้าไว้แต่แรก แต่ชื่อเสียงของนักเตะหมายเลข 11 ของพวกเขา ดังกระฉ่อนยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
a
ฤดูกาล 2020/21 ของ “โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ “
ลงเล่นเป็นตัวจริง : 47 เกม (รวมทุกรายการ)
ลงเล่นเป็นตัวสำรอง : 4 เกม
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงเล่น : 0 เกม
ประตู : 31
แอสซิสต์ : 6
คะแนนความสามารถทั้งฤดูกาล : 9.0
a
เครื่องจักรถล่มประตู ผู้แบกแนวรุก “ลิเวอร์พูล”
ในฤดูกาล 2019/20 มีผู้เล่นจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจจะนับว่าเล่นได้ดีกว่า “ซาล่าห์ ” ในขณะที่ “ลิเวอร์พูล” สามารถกลับมาคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี
“ซาดิโอ มาเน่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และเวอร์จิล ฟานไดจ์ค” โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น และในขณะที่ดาวยิงวัย 28 ปี ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน ก็ได้พัฒนาขึ้นจนกลายเป็นตัวหลักของทีมที่ขาดไม่ได้
ราวกับถูกหมัดน็อค เมื่อ “ซาล่าห์ ” ไม่ได้คว้ารางวัลเกียรติยศใดๆ เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล แต่เขาก็ลุกขึ้นต่อสู้อย่างไม่ท้อแท้ ตั้งแต่เกมแรกที่ “ลิเวอร์พูล” พบกับ “ลีดส์ ยูไนเต็ด” ในฤดูกาล 2020/21
แฮตทริคที่แอนฟิลด์เป็นสัญญาณของสิ่งที่จะตามมา ซึ่งดาวยิงแห่งอิยิปต์ไม่เคยยอมแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้ “ลิเวอร์พูล” จะต้องประสบกับช่วงเวลาอันแสนเลวร้ายในช่วงปลายฤดูหนาว
ขณะที่ “ซาดิโอ มาเน่” และ “โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่” ต้องต่อสู้ดิ้นรนอยู่รอบๆ ตัวเขา และ “ดิโอโก้ โชต้า” ก็ไม่สามารถลงเล่นได้นับหลายเดือน “ซาล่าห์ ” ยังคงทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยทีมให้เอาตัวรอดมาได้ เกมแล้วเกมเล่า
ลูกยิงสวนเข้าเสาไกลในเกมที่บุกไปเยือน “เอฟเวอร์ตัน” ลูกปั่นโค้งจากนอกเขตโทษที่ “พาเลซ” และลูกจับบอลแล้วยิงที่ “เวสต์แฮม” ล้วนเป็นตัวอย่างของความเป็นนักเตะระดับโลกในตัว “ซาล่าห์ ” ซึ่งประตูแรกที่กล่าวมา เป็นประตูที่ 100 ของเขาในสีเสื้อ “ลิเวอร์พูล” อีกด้วย
นั่นเป็นความสำเร็จที่ทำได้จากการลงเล่นเพียง 160 เกม ทำให้เขารั้งเป็นอันดับ 3 ของผู้เล่น “ลิเวอร์พูล” ที่ทำ 100 ประตูแรกเร็วที่สุดตลอดกาล ซึ่งเป็นรองเพียงแค่ “โรเจอร์ ฮันท์ ” (144 เกม) และ “แจ็ค พาร์คินสัน” (153 เกม) เท่านั้น
ในฤดูกาลที่ผู้เล่นหลายคนเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน “ซาล่าห์ ” ยังคงเล่นได้อย่างสุดยอด
นั่นไม่ได้หมายความว่า เขาเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบตลอดเวลา การยิงนกตกปลาของเขาในเกมกับ “เรอัล มาดริด” ไม่ใช่ครั้งเดียวที่เขาเล่นแย่ เพียงแต่เขามีช่วงเวลาที่ควรถูกตำหนิน้อยกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ เท่านั้นเอง
a
จิตใจแข็งแกร่งประดุจหินผา
เมื่อ “โจ วิลล็อค” ยิ่งประตูตีเสมอให้กับ “นิวคาสเซิล” ในนาทีสุดท้ายเมื่อเดือนเมษายน ไม่มีใครดูเดือดดาลมากไปกว่า “ซาล่าห์ “
เขารีบเดินเข้าอุโมงค์ โดยรู้ดีกว่าลูกตีเสมอนั้นราคาแพงแค่ไหนสำหรับ “ลิเวอร์พูล” ซึ่งกำลังตะเกียกตะกายเพื่อไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกให้ได้
ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งนั่นเป็นจุดที่ “ซาล่าห์ ” เหนือกว่าคนอื่นใด
ในเดือนกุมภาพันธ์ เขาสัญญาว่า “ลิเวอร์พูล” จะไม่ยอมให้ฤดูกาลจบลงด้วยผลการแข่งขันอันย่ำแย่ในช่วงเวลานั้น และสุดท้ายเขาก็รักษาสัญญาที่ให้ไว้
ทีมของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ชนะถึง 8 เกม และเสมอเพียง 2 เกม ใน 10 เกมสุดท้ายก่อนจบฤดูกาล ซึ่ง “ซาล่าห์ ” ทำได้ 5 ประตู และแอสซิสต์อีก 2 ครั้ง
ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาแสดงความเป็นตัวรุกที่น่ากลัวที่สุด และบ่อยครั้งที่เขาทำประตูได้โดยดูเหมือนไม่ต้องใช้ความพยายาม
ประตูปิดเกมที่ “แมนฯ ยูไนเต็ด” ทำให้นึกถึงประตูที่เขายิงใส่ทีมเดียวกันนี้เมื่อฤดูกาลก่อน และท่าทางในการฉลองประตูของเขา ไม่เหมือนกับคนที่กำลังจะจากทีมไปในซัมเมอร์นี้
“ซาล่าห์ ” แสดงความรักและผูกพันต่อสโมสรไม่ต่างจากผู้เล่นคนอื่นๆ ซึ่งสามารถเห็นได้อย่างชัดแจ้งในช่วงเดือนท้ายๆ ก่อนปิดฤดูกาล
เมื่อฤดูกาลจบลง “ซาล่าห์ ” ซัดไปเบ็ดเสร็จ 31 ประตู นั่นเป็นสถิติที่น่าทึ่ง ซึ่งไม่มีผู้เล่น “ลิเวอร์พูล” คนใดที่มีส่วนช่วยทีมไปมากนี้อีกแล้ว
ลืมการโวยวายเมื่อถูกเปลี่ยนตัวออก และลืมการเห็นแก่ตัวเล็กๆ น้อยๆ ในการทำประตูของเขาเสียเถิด
เพราะเขาคือตำนานของ “ลิเวอร์พูล” อย่างแท้จริง ผู้สมควรจะได้รับการคารวะ และได้รับการจารึกชื่อเคียงคู่ประวัติศาสตร์ของสโมสรแห่งนี้
a
อนาคตของซาล่าห์?
เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดข่าวลือเดิมๆ ในช่วงซัมเมอร์ ที่บ่งบอกว่า “ซาล่าห์ ” อาจจะย้ายไปเล่นให้กับยักษ์ใหญ่ของสเปน หรือไม่ก็ “เปแอสเช”
ความจริงก็คือ ทีมจากสเปนแทบไม่มีเงิน การจะคว้าตัวเขาออกไปจากถิ่นแอนฟิลด์แทบจะเป็นไปไม่ได้ และยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีสิ่งใดที่บ่งบอกเลยว่า “ซาล่าห์ ” ต้องการจะย้ายออกไปไหน
เขาต้องการที่จะปักหลักสร้างสถิติส่วนตัวอยู่ที่ “ลิเวอร์พูล” เช่นเดียวกับการทำทุกวิถีทาง เพื่อกระชากตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกกลับคืนมาจาก “แมนฯ ซิตี้”
“ซาล่าห์ ” จะก้าวเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ในฐานะสมบัติอันล้ำค่าที่สุดของ “ลิเวอร์พูล” อย่างไม่ต้องสงสัย แม้เขาจะอายุครบ 29 ปี ในซัมเมอร์นี้แล้วก็ตาม
คุณอาจสนใจ :
ข้อมูลนักเตะลิเวอร์พูล
ตำนานสนามแอนฟิลด์
ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ทำเนียบแชมป์
ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล
a
Our References :
a
1,828 total views, 2 views today