ไม่แน่ใจว่จะเป็นข่าวดี หรือ ข่าวร้ายสำหรับกลุ่มทุนผู้อยู่เบื้องหลังทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล สโมสรฟุตบอลชื่อดังจากพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่ล้มแผนการลงทุนกับอีกหนึ่งทีมฟุตบอลในยุโรปไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำนักข่าวบีบีซี สื่อชื่อดังของสหราชอาณาจักร รายงานว่า เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป หรือ เอฟเอสจี เจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล ได้ล้มแผนการเจรจาซื้อสโมสรบอร์กโดซ์ ทีมฟุตบอลดังจากลีกฝรั่งเศส ลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ก่อนหน้านี้ทาง เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป หรือ เอฟเอสจี ซึ่งเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลชื่อดังอย่างพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อยู่แล้ว มีข่าวทำการเจรจากับทาง บอร์กโดซ์ เพื่อเข้ามาซื้อสโฒสร ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อนทางฝั่งของ เอฟเอจี ได้ออกมายืนยันว่าพวกเขาเพิ่งอยู่ในช่วงต้นของการเจรจาเกี่ยวกับการซื้อสโมสรบอร์กโดซ์ ซึ่งเคยคว้าแชมป์ลีกของประเทศฝรั่งเศสได้ถึง 6 สมัย

อย่างไรก็ตามล่าสุดทางฝั่งของ บอร์กโดซ์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทาง เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป หรือ เอฟเอสจี นั้นมีการอ้างถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสนามแข่ง รวมถึงไปเรื่องสถานการณ์การเงินของวงการฟุตบอลฝรั่งเศสที่ดูจะยังมีความไม่แน่นอนอยู่ในเวลานี้

สำหรับสโมสรฟุตบอลบอร์กโดซ์นั้น ก่อนหน้านี้พวกเขาจะถูกสั่งให้ลดชั้นลงไปเล่นในลีกระดับ  3 ของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส จากคำสั่งของทางหน่วยงานเฝ้าระวังด้านการเงินของวงการฟุตบอลแดนน้ำหอม อย่าง ดีเอ็นซีจี หลังจากที่พวกเขาล้มเหลวในการการันตีเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลฤดูกาล 2024-25 อย่างไรก็ตามทางสโมสรกำลังทำการยื่นอุทธรณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าว

ทั้งนี้แถลงการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวระหว่างสโมสรบอร์กโดซ์ กับ กลุ่มทุนเจ้าของสโมสรลิเวอร์พูลนั้น มีการระบุออกมาว่า “ทางสโมสรบอร์กโดซ์และเหล่าผู้ถือหุ้นได้รับแจ้งจากเฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป เกี่ยวกับความตั้งใจที่จะไม่ดำเนินการเพื่อหารือต่อ หลังจากการเจรจาที่เริ่มขึ้นเมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่พวกเขามีจุดประสงค์ในการที่จะซื้อสโมสร”

“การตัดสินใจในครั้งนี้สามารถอธิบายได้จากในส่วนของค่าใช้จ่ายจำนวนมากในส่วนของการดูแลรักษาสนามในปีต่อ ๆ ไป และยังรวมถึงบริบทด้านเศรษฐกิจโดยรวมของวงการฟุตบอลของฝรั่งเศสอีกด้วย”

ขณะที่ทางฝั่งของเอฟเอสจี ได้แถลงการณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นนี้ ว่า “แม้ว่าเราจะผิดหวังที่ไม่สามารถหาผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ออกมาได้ แต่ทางเราก็ขออวยพรให้กับสโมสรและกองเชียร์ของพวกเขาได้มีช่วงเวลาที่ดีต่อไปในอนาคต”

 103 total views

ท่ามกลางผลงานอันสุดร้อนแรงของทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่เดินหน้าคว้าชัยชนะอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเกมพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ และฟุตบอลถ้วยในประเทศอย่าง คาราบาว คัพ และ ฟุตบอลถ้วยยุโรป อย่าง ยูโร ปา ลีก ที่พวกเขาต่างคว้าชัยได้ครบทั้ง 3 รายการในช่วงหลัง

ล่าสุดทางทีมได้มีการแสเกี่ยวกับฝั่งของการบริหารของสโมสรบ้าง หลังมีการประกาศว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้องในส่วนของหุ้นสโสมร

โดยเฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (เอฟเอสจี) กลุ่มทุนเจ้าของทีม ลิเวอร์พูล ตกลงขายหุ้นบางส่วนของสโมสรให้กับบริษัทการลงทุนด้านกีฬาของสหรัฐด้วยมูลค่า 164 ล้านปอนด์ เพื่อช่วยชำระหนี้ธนาคารในช่วงโควิด-19

สำหรับ เอฟเอสจี ที่นำโดย จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ออกมายืนยันว่า “หงส์แดง” เปิดรับผู้ลงทุนรายใหม่ในการเข้ามาซื้อหุ้นบางส่วนของสโมสร

จนล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ก.ย. เว็บไซต์สโมสร ลิเวอร์พูล ยืนยันว่า เอฟเอสจี ได้มีการตกลงขายหุ้นบางส่วนของสโมสรให้กับ ไดนาสตี้ อิควิตี บริษัทการลงทุนด้านกีฬาจากสหรัฐเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเงินทุนที่ได้จากดีลดังกล่าวจะนำมาใช้เพื่อชำระหนี้ธนาคารที่เกิดขึ้นระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19, ค่าใช้จ่ายด้านทุนเพื่อปรับปรุงสนาม แอนฟิลด์, สร้างศูนย์ฝึกอบรมแอกซา, ซื้อคืนสนามฝึกซ้อม เมลวู้ด และล่าสุดคือการลงทุนในตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์

ขณะที่ “เทเลกราฟ” สื่อดังระบุว่า ลิเวอร์พูล จะได้เงินจากการขายหุ้นส่วนน้อยดังกล่าวจำนวน 164 ล้านปอนด์ (ราว 7.33 พันล้านบาท) อย่างไรก็ตามเงินจำนวนนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับงบเสริมทัพ หรือมีการอัดฉีดเพิ่มในส่วนดังกล่าวแต่อย่างใด

โดยหลังจากประกาศดังกล่าวแล้ว ทางเว็บไซต์ของสโมสรได้มีการออกเปิดเผยแถลงการณ์ของฝั่งผู้บริหารว่า

“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ FSG  และสนับสนุนมรดกอันน่าทึ่งของลิเวอร์พูลในการเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ที่สร้างขึ้นบนความเคารพซึ่งกันและกัน และความสัมพันธ์อันลึกซึ่งระหว่างทีมที่เกี่ยวข้องของเรา” โจนาธาน เอ็ม. เนลสัน ประธานกรรมการบริหารของ Dynasty กล่าว

เค. ดอน คอร์นเวลล์ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Dynasty กล่าวเสริมว่า “ลิเวอร์พูลเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่โดดเด่นที่สุดในโลก ด้วยฐานแฟนบอลที่หลงใกล และการเข้าถึงทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ Dynasty ได้รับสิทธิพิเศษในการสนับสนุนสโมสร และทำงานร่วมกับ FSG  เพื่อดำเนินการตามโอกาสในการเติบโตอันยิ่งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า”

 207 total views