ความเคลื่อนไหวเรื่องสถานการณ์การเสริมทัพนักเตะของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ก่อนหน้านี้ได้กองกลางใหม่มาร่วมทัพอย่างเป็นทางแล้ว 2 ราย แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าพวกเขาจะล้มแผนคว้าตัว 1 ในตัวเลือกที่เป็นข่าวมาโดยตลอดเรียบร้อยแล้ว
โดยรายงานระบุว่า ทาง ลิเวอร์พูล ได้ยุติความตั้งใจที่จะเดินหน้าล่าตัว เคเฟร็น ตูราม กองกลางชาวฝรั่งเศสของนีซ มาเป็นนักเตะใหม่ของทีมแล้ว
ก่อนหน้านี้ลิเวอร์พูลแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป้าหมายในการเสริมทัพของพวกเขาในตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์นี้ คือ ผู้เล่นตำแหน่งกองกลาง
ซึ่งทีมหงส์แดงก็ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพนอกสนามที่เกี่ยวกับเรื่องการเจรจากับนักเตะให้เห็นอีกครั้งด้วยการปิดดีลคว้า 2 มิดฟิลด์เข้ามาเสริมทัพอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ กองกลางทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดแชมป์โลก 2022 ที่กาตาร์ จากไบรตัน มาร่วมทัพเป็นคนแรก ก่อนที่จะได้ตัว โดมินิก โซบอสไล เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติฮังการีของไลป์ซิกเข้ามาเสริมทัพเพิ่มอีกราย
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าพวกเขายังคงไม่ยุติการเสริมในช่วงซัมเมอร์นี้ไว้เพียงแค่ผู้เล่น 2 คน ที่กล่าวไปเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสว่าพวกเขาสนใจจาก เคเฟร็น ตูราม มิดฟิลด์ของนีซ อยู่ด้วยเช่นกัน
แต่สุดท้ายมีการเปิดเผยว่า หงส์แดงได้ล้มแผนเกี่ยวกับการคว้าตัวนักเตะรายนี้แล้ว โดย “เบน จาค็อบส์” ผู้สื่อข่าวคนดังระบุว่า ลิเวอร์พูล ล้มเลิกแผนในการซิว ตูราม มาร่วมทีมแล้วหลังการเข้ามาของ โซโบสไล แม้ค่าตัวของดาวเตะวัย 22 ปีรายนี้จะไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเขา
ขณะที่ “ซาชา ทาโวเลียรี” ผู้สื่อข่าวฟุตบอลเบลเยียมรายงานว่า ขณะนี้ ลิเวอร์พูล ตั้งเป้าในการเซ็นสัญญากับ โรเมโอ ลาเวีย กองกลาง เซาธ์แฮมป์ตัน โดย “หงส์แดง” มีการพูดคุยกับตัวนักเตะแล้ว แต่ยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆ เนื่องจาก “นักบุญ” ต้องการค่าตัวของผู้เล่นรายนี้ที่ 40 ล้านปอนด์ (ราว 1.77 พันล้านบาท) ทว่า ลิเวอร์พูล จะยื่นข้อเสนอที่ต่ำกว่านั้น
ทั้งนี้ เชลซี คืออีกทีมที่ให้ความสนใจ ลาเวีย เช่นกันทว่า ลิเวอร์พูล ดำเนินการในดีลนี้ได้เร็วกว่า
สำหรับ ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องมีการเสริมทัพนักเตะครั้งใหญ่ในตลาดซื้อขายรอบนี้ เพราะผลงานเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาของพวกเขานั้นต้องบอกว่าทำได้ไม่ดีพอ เนื่องจากจบเป็นอันดับ 5 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ส่งผลให้ทีมชวดไปเล่นฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรป อย่าง ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ทำให้พวกเขาต้องทำผลงานให้ดีขึ้นในฤดูกาลนี้เพื่อกลับไปติดท็อปโฟร์อีกครั้งให้ได้
237 total views