ลิเวอร์พูล ยังคงเดินหน้าคว้าชัยชนะต่อไป พร้อมกับขยับขึ้นมารั้งตำแหน่งจ่าฝูงของศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ชั่วคราว เนื่องจากพวกเขาได้แข่งก่อน อาร์เซนอล ซึ่งเป็นจ่าฝูงก่อนเกมการแข่งขันแมตช์นี้
โดยการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่สนามเซลเฮิร์สต์ ปาร์ก เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ เปิดรังเหย้าพบกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
สำหรับสถานการณ์ก่อนเกม ลิเวอร์พูล ประสบปัญหานักเตะแนวรับบาดเจ็บหลายคน ทำให้ต้องใส่ชื่อ จาเรลล์ ควอนซาห์ ดาวรุ่งวัย 20 ปี ลงเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ รวมทั้ง ยังได้ อลิสซอน เบ็กเกอร์ นายทวารบราซิล กลับมาเฝ้าเสาได้อีกครั้ง
นาที 30 ลิเวอร์พูลได้เสียวสันหลัง เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ ไปเสียบนักเตะพาเลซ ในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ พร้อมแจกใบเหลือง ฟาน ไดก์ แต่หลังจากเช็ก VAR พบว่า วิลล์ ฮิวจ์ ไปอัด วาตารุ เอ็นโด จากข้างหลังก่อน ในจังหวะก่อนหน้า จึงยกเลิกจุดโทษ และใบเหลืองของฟาน ไดก์ ไป
จากนั้น นาที 55 จาเรลล์ ควอนซาห์ เข้าสกัดพลาดไปเตะเข้าที่ข้อเท้าของ ฌอน – ฟิลิปส์ มาเตตา ผู้ตัดสินเช็ก VAR ย้อนหลัง ก่อนชี้เป็นจุดโทษ มาเตตา สังหารเองไม่พลาดส่ง พาเลซ ขึ้นนำ 1-0
แต่แล้วก็เกิดจุดเปลี่ยนของเกม ใน นาที 75 พาเลซ ที่กำลังได้เปรียบอยู่แท้ๆ แต่ อังเดร อายิว ไปตัดเกมกลางสนามใส่ ฮาร์วี่ เอลเลียต ผู้ตัดสินชักใบเหลืองที่สองเป็นใบแดง ไล่ออก พาเลซ เหลือแค่ 10 คนในช่วงเวลาอีก 15 นาที
หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ได้เฮในนาทีที่ 76 จากจังหวะสวนกลับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้กดในกรอบเขตโทษ บอลไปชนตัว นาธาเนียล ไคล์ กองหลังพาเลซ บอลเปลี่ยนทางเป็นประตูตีเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็ว และเป็นประตูที่ 11 ของ ซาลาห์ ในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้ และเป็นประตูที่ 200 ในสีเสื้อของลิเวอร์พูลในทุกรายการอีกด้วย และเป็นประตูที่ 150 ในพรีเมียร์ ลีก
จากนั้น หงส์แดง โหมหนักในช่วงเวลาที่เหลือและ นาที 90 ฮาร์วี่ เอลเลต แผลงฤทธิ์พยายามลากหาช่อง ก่อนจะซัดไกลบอลพุ่งวาบเข้าไปตุงตาข่าย เป็นประตูชัยให้ หงส์แดง พลิกกลับมาชนะ 2-1 ลิเวอร์พูล ไร้พ่ายในลีกเป็นเกมที่ 9 หงส์แดงเตะ 16 นัดมี 37 แต้ม แซง ปืนใหญ่ อาร์เซนอล อยู่ 1 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 นัด พาเลซ ยังไม่ฟื้น พ่ายในบ้านเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกัน
227 total views, 1 views today