บทความลิเวอร์พูล – 5 ประเด็นหลังเกม ลิเวอร์พูล 2-0 เซาแธมป์ตัน
มันเป็น 3 คะแนนที่ล้ำค่าอย่างยิ่งสำหรับภารกิจของ “ลิเวอร์พูล” ในการรักษาเส้นทางของทีมที่ต้องการไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้า เกมนี้มีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปชมกันได้เลยครับ
“ลิเวอร์พูล” ยังเป็นทีมระดับ “แชมเปี้ยนส์ลีก” หรือไม่
หลังจาก “เลสเตอร์ ซิตี้” แพ้ให้กับ “นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด” เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ “ลิเวอร์พูล” ตามหลังทีมของ “เบร็นแดน ร็อดเจอร์ส” เพียง 6 คะแนนเท่านั้น และยังลงเล่นน้อยกว่า 1 นัดอีกด้วย
ด้วยโอกาสที่ “ลิเวอร์พูล” สร้างขึ้นมาในครึ่งเวลาแรก ลูกทีมของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ดูเหมือนจะเล่นได้ดี แต่พวกเราก็ยังไปไม่ถึงระดับของฤดูกาลที่แล้ว
พวกเราอาจจะขยับเข้าใกล้พื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีกมากขึ้น แม้จะไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกก็ตาม ด้วยผู้เล่นแนวรุกคุณภาพสูง 3 คน สนับสนุนโดยมิดฟิลด์และฟูลแบ็คชั้นยอด
มีการจบสกอร์สวยๆ ในพื้นที่สุดท้ายเพียง 2-3 ครั้ง ซึ่งยังคงห่างไกลกับทีมที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก ที่คู่ควรกับตำแหน่งท็อปโฟร์
แต่ผลงานตลอดฤดูกาลของเรา แสดงถึงการทำงานเพื่อพยายามไปสู่จุดที่เราต้องการบนตารางคะแนน
“เลสเตอร์ ซิตี้” มีโปรแกรมที่ค่อนข้างหนักในช่วงโค้งสุดท้าย โดยจะพบกับ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และสเปอร์ส” ส่วนโปรแกรมของ “เวสต์แฮม” และ “ลิเวอร์พูล” ค่อนข้างเบากว่า แถมยังลงเล่นน้อยกว่าอยู่ 1 นัดอีกด้วย
หลังจากเกมกับ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” “ลิเวอร์พูล” จะต้องพบกับ “เวสต์บรอมวิช, เบิร์นลี่ย์ และคริสตัล พาเลซ” เราต้องทำคะแนนให้ได้มากที่สุดจาก 12 แต้มเต็ม และดูๆ แล้วเราน่าจะจำเป็นต้องชนะทุกนัด!!!
ภาวะกลืนไม่เข้าคายออกในแนวรับ (อีกแล้ว)
เมื่อ “โอซาน คาบัค” และ “เบน เดวี่ส์ ” ถูกเพิ่มไปยังรายชื่อนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ตัดสินใจเก็บ “ฟาบินโญ่” ไว้ในแดนกลาง และเลือกที่จะจับคู่ “แน็ท ฟิลลิปส์ ” และ “รีส วิลเลียมส์ ” เป็นเซ็นเตอร์
นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่คู่หูอ่อนประสบการณ์นี้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงด้วยกัน ส่วนครั้งแรกคือนัดที่พ่ายให้กับ “ฟูแล่ม” 1-0 ในบ้าน
“ลิเวอร์พูล” ยังคงเลือกที่จะดันเกมสูง แม้ว่าทั้ง “ฟิลลิปส์ ” และ “วิลเลียมส์ ” จะไม่ใช่พวกความเร็วสูงก็ตาม
พวกเขาเกือบพลาดท่า เมื่อ “นาธาน เตลล่า” ฝ่าแนวรับไปได้โดยมี “วิลเลี่ยมส์ ” เข้ากดดัน ดีที่ผู้ตัดสิน “เควิน เฟรนด์ ” ตัดสินว่าไม่มีการเล่นผิดกติกาเกิดขึ้น
แต่แล้ว “วิลเลี่ยมส์ ” ก็พลาดท่าจนได้ เมื่อ “เตลล่า” ฝ่าทะลวงไปได้ สร้างโอกาสอันสวยงามแก่ “เช อดัมส์ ” อย่างไรก็ตาม “อลิสซอน” ช่วยเซฟไว้ได้
นักเตะวัย 20 ปีรายนี้ช่วยเก็บกวาดได้ค่อนข้างดีในครึ่งหลัง รวมถึงการโหม่งบอลคืนให้กับ “อลิสซอน” และเก็บตกบอลได้หลายครั้งทีเดียว
“ฟิลลิปส์ ” มีโอกาส 2 ครั้งในการทำประตูจากลูกตั้งเตะ แต่เขาโหม่งหลุดกรอบไปทั้งสองครั้ง นอกจากนั้นเขายังชนะลูกกลางอากาศได้ถึง 7 ครั้งอีกด้วย
จริงอยู่ที่คู่นี้ไม่ควรจะลงเล่นเป็นเซ็นเตอร์ตัวหลักของ “ลิเวอร์พูล” ในฤดูกาลหน้า แต่สำหรับนัดนี้พวกเขาทำงานสำเร็จตามเป้า โดยการช่วยเก็บคลีนชีท และ 3 คะแนนให้กับทีม
ติอาโก้ “ศิลปิน” ที่รอคอยผู้ชมของเขา
ความคิดเห็นต่อตัว “ติอาโก้” ได้แตกออกเป็น 2 กลุ่ม ตั้งแต่เขาย้ายมาอยู่กับ “ลิเวอร์พูล” และน่าจะสำหรับในนัดนี้ด้วย จนกระทั่งเขาทำประตูได้
แม้ว่ามันจะไม่ใช่ฤดูกาลที่ดีของเขาอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ หลังจากที่ “ติอาโก้” ย้ายมาจาก “บาเยิร์น มิวนิค” แต่ต้องยอมรับมันเป็นความถดถอยของทีมโดยรวม มากกว่าเป็นผลงานของดาวเตะชาวสเปนเพียงคนเดียว
ดูเหมือนว่า “ติอาโก้” จะถูกตำหนิในหลายๆ เรื่องที่ไม่ใช่ความผิดของเขา บ่อยครั้งที่นัดที่เขาเล่นได้ดีก็มักจะถูกเพิกเฉย มันคงจะไม่เป็นเช่นนั้น หากแฟนบอล “ลิเวอร์พูล” กลับมาอยู่บนอัฒจรรย์
นักเตะวัย 30 ปีรายนี้น่าจะกลายเป็นที่โปรดปรานที่แอนฟิลด์ หากเขายังรักษาความฟิตและตำแหน่งตัวจริงในทีมไว้ได้ เขาน่าจะได้รับการชื่นชมไปทั่วทั้งประเทศเสียด้วยซ้ำ ด้วยความสามารถตามธรรมชาติของเขาในการสร้างความบันเทิง พร้อมด้วยทักษะอันเป็นสีสัน ซึ่งเขาทำได้อย่างง่ายดายแม้กระทั่งในช่วงเวลาอันตึงเครียดในเกมสำคัญๆ ก็ตาม
ในเกมกับ “เซาแธมป์ตัน” มีการจ่ายบอลด้วยไหล่ การส่งบอลโดยไม่มอง การระเบิดฮาล์ฟวอลเล่ย์จากระยะไกล และการยิงประตูในช่วงท้ายเกม ฯลฯ ทั้งหมดนี้ควรจะมีแฟนๆ อยู่และแสดงความชื่นชม
“ติอาโก้” จบเกมด้วยการผ่านสำเร็จถึง 93% และเป็นผู้สัมผัสบอลมากที่สุดของทีมรองจาก “แอนดี้ โรเบิร์ตสัน” เท่านั้น
ปราการเหล็ก อลิสซอน
ด้วยคู่หูเซ็นเตอร์แบ็คที่อ่อนประสบการณ์เบื้องหน้าของเขา จึงไม่สามารถประเมินได้เลยว่า การมี “อลิสซอน” ยืนเฝ้าเสานั้นมีความสำคัญต่อทีมเพียงใด
โดยปกติ ความไม่สมดุลของตัวผู้เล่นในทีมมักจะสร้างผลกระทบตัวผู้รักษาประตู แต่ “อลิสซอน” กลับเป็นผู้รักษาประตูที่สามารถทำให้เกิดทิศทางที่ดีในทีมได้ ทำให้แนวรับที่อยู่ข้างหน้าของเขาเล่นได้อย่างมั่นใจ และรู้สึกปลอดภัยว่า อย่างน้อยผู้รักษาประตูจะช่วยเขาได้ในยามจำเป็น
“อลิสซอน” เซฟลูกที่ “วิลเลี่ยมส์ ” ทำพลาดได้อย่างยอดเยี่ยม และยังเซฟลูกที่ตัวเองทำพลาดโดยการส่งบอลไปเข้าทางนักเตะ “เซาแธมป์ตัน” ในครึ่งหลังได้อีกด้วย
ในนัดนี้ เขาได้รับเลือกเป็น “แมนออฟเดอะแมทช์ ” ซึ่งเขาสมควรได้รับมันจริงๆ
เกมสุดท้ายที่แอนฟิลด์ ยังคงไร้แฟนบอล
“ลิเวอร์พูล” แพ้ในบ้านถึง 6 นัดในลีกเข้าไปแล้ว โดยเป็นที่ทราบกันดีกว่า เราเป็นทีมที่คิดถึงแฟนบอลมากที่สุดทีมหนึ่งเลยทีเดียว
แม้ว่านี่จะไม่ใช่ข้อแก้ตัวสำหรับผลงานอันย่ำแย่ของ “ลิเวอร์พูล” ในฤดูกาลนี้ แต่อะไรๆ มันคงจะดีขึ้นหากได้ยินเสียงเชียร์จากแฟนบอลบนอัฒจรรย์อีกครั้ง เมื่อ “คริสตัล พาเลซ” จะมาเยือนแอนฟิลด์ในเกมปิดฤดูกาลในอีก 2 สัปดาห์
ขณะนี้ อัฒจรรย์ทั้ง 3 ด้านเต็มไปด้วยโลโก้ผู้สนับสนุนหลักของสโมสร อัฒจรรย์ฝั่งเดอะค็อปก็ยังคงมีธงและป้ายเชียร์อยู่เต็มไปหมด และมีข้อความแสดงความรำลึกถึง “เชราร์ อุลลิเยร์ ” อยู่ด้านล่างของสกอร์บอร์ดที่อยู่บนอัฒจรรย์เคนนี่ ดัลกลิช
มีเพียงเสียงปรบมือมาจากซุ้มม้านั่งสำรอง เสียงตะโกนจากเส้นข้างสนามและผู้เล่นในสนามเท่านั้นเอง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แอนฟิลด์จะกลับมามีแฟนบอลเต็มสนามอีกครั้งในฤดูกาลหน้า…
a
คุณอาจสนใจ :
ข้อมูลนักเตะลิเวอร์พูล
ตำนานสนามแอนฟิลด์
ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ทำเนียบแชมป์
ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล
a
Our References :
1,120 total views, 1 views today