โหมโรงก่อนระเบิดศึกยูโร – กลุ่ม B
กลุ่ม B เป็นกลุ่มที่มีประเทศหนึ่ง ซึ่งได้รับประโยชน์จากการเพิ่มจำนวนทีม นั่นก็คือ “ฟินแลนด์ ” ซึ่งไม่เคยผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลรายการใหญ่ มาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือฟุตบอลโลก
พวกเขากำลังจะเผชิญหน้ากับหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และอีกสองชาติที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ในกลุ่มซึ่งพวกเขาอาจจะสร้างความประหลาดใจ โดยการผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ก็เป็นได้
a
นักเตะ “ลิเวอร์พูล” ในกลุ่ม B
“ซิมง มิโญ่เล่ต์ ” เป็นผู้รักษาประตูมือสองของ “เบลเยียม” ขณะที่อดีตศูนย์หน้าอย่าง “คริสเตียน เบนเตเก้” ก็อยู่ในทีมชุดนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนั้น “ลิเวอร์พูล” ยังเคยมีข่าวเชื่อมโยงกับมิดฟิลด์ของ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” อย่าง “ยูริ ตีเลอมันส์ ” และปีกอย่าง “เฌเรมี โดกูว์ ” ด้วยเช่นกัน
เมื่อย้อนเวลากลับไป “ลิเวอร์พูล”ใกล้เคียงกับการเซ็นสัญญากับสองนักเตะ “เดนมาร์ก” อย่าง “แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก” และ “คริสเตียน อิริคเซ่น” เช่นเดียวกับดาวรุ่งพรสวรรค์สูงชาวฟินแลนด์อย่าง “โจเอล โพห์ยันพาโล”
a
โปรแกรมการแข่งขัน
วันที่ 12 มิถุนายน – เดนมาร์ก VS ฟินแลนด์
วันที่ 12 มิถุนายน – เบลเยียม VS รัสเซีย
วันที่ 16 มิถุนายน – ฟินแลนด์ VS รัสเซีย
วันที่ 17 มิถุนายน – เดนมาร์ก VS เบลเยียม
วันที่ 21 มิถุนายน – รัสเซีย VS เดนมาร์ก
วันที่ 12 มิถุนายน – ฟินแลนด์ VS เบลเยียม
a
เบลเยียม
“เบลเยียม” เป็นทีมที่อุดมไปด้วยผู้เล่นระดับโลก รวมถึงนักเตะระดับลายครามที่ยังตามหาฟอร์มเก่งไม่เจอ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า “โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ” ได้ทำให้ทีมของเขาน่าตื่นตาตื่นใจในการชม มากกว่าในสมัยของ “มาร์ค วิลม็อตส์ ” อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งคู่ก็ยังไม่เคยพาทีมที่เต็มไปด้วยผู้เล่นพรสวรรค์สูงเช่นนี้ เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้เลย
การผ่านรอบคัดเลือกโดยมีสถิติชนะรวดทุกนัดเหนือ “รัสเซีย” ซึ่งตามมาเป็นอันดับสอง ก็น่าจะบ่งบอกถึงความน่าสนใจของทีมนี้อย่างเพียงพอแล้ว
a
ผู้ที่น่าจับตามอง
เควิน เดอบรอยน์ – เขาเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรุกที่เก่งที่สุดในโลก อย่างไม่ต้องสงสัย เขามักจะได้รับบทบาทเป็นตัวรุกที่มีอิสระในทีมชาติ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้เขาได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า จากเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งยังไม่แน่ว่า “เดอบรอยน์ ” จะกลับมาลงเล่นได้ในเกมไหน
เอเด็น อาซาร์ – คำถามก็คือ “อาซาร์ ” เวอร์ชั่นไหน? ไม่ต้องสงสัยเลยว่า “มาร์ติเนซ” จะต้องให้เขาลงเป็นตัวจริงอย่างแน่นอน แต่เขาได้รับบาดเจ็บและอยู่ในสภาพไร้ประโยชน์เป็นเวลาถึง 2 ปีที่ “มาดริด” เขาจะสามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมา โดยไม่มีปัญหาที่เอ็นร้อยหวาย ข้อเท้า หรือหลังของเขาได้หรือไม่? ถ้าได้ “เบลเยียม” ก็จะมีผู้เล่นที่สามารถตัดสินเกมอยู่ในสนามด้วย แต่ถ้าไม่ พวกเขาก็จะเหมือนมีนักเตะเพียงแค่ 10 คน
“ยานนิค คาร์ราสโก้” เป็นตัวเลือกสุดท้าย ท่ามกลางคำถามเกี่ยวกับบรรดา “ซูเปอร์สตาร์ ” ซึ่งจริงๆ แล้ว ฟอร์มและพรสวรรค์ของ “คาร์ราสโก้” ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขาเท่าใดนัก นอกจากนั้น เขายังมีบทบาทสำคัญในแท็คติคของทีม ในฐานะวิงแบ็คผู้ทำงานอย่างหนักอีกด้วย “เบลเยียม” ต้องหวังให้เขาอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด ซึ่งจะสามารถชดเชยข้อด้อยในส่วนอื่นๆ ของทีมได้อีกด้วย
a
คำทำนาย
“เบลเยียม” มีขุมกำลังนักเตะที่ดีจริงๆ แต่นั่นก็อาจจะเป็นปัญหาของพวกเขาได้เช่นกัน โดยเฉพาะการจัดสรรให้บรรดาซูเปอร์สตาร์ได้ลงเล่น พวกเขาน่าจะเข้าถึงรอบแปดทีมสุดท้าย แต่โดนเขี่ยตกรอบโดย “อิตาลี”
a
เดนมาร์ก
“เดนมาร์ก” ผ่านเข้าสู่ยูโร 2020 โดยไม่แพ้ใครแม้แต่เกมเดียวในรอบคัดเลือก แต่พวกเขาก็ไม่ได้จบเป็นอันดับที่ 1 ของกลุ่ม นั่นน่าจะบอกได้ดีถึงสิ่งที่เราสามารถคาดหวังได้จากพวกเขา
พวกเขาไล่ถล่มทีมรองบ่อนอย่างสนุกสนาน แต่กับทีมในระดับเดียวกัน พวกเขาก็เปลี่ยนมาเล่นแบบเน้นความปลอดภัย เหนียวแน่น และรอจังหวะสวนกลับ นับเป็นทีมรองที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
วิธีดังกล่าวอาจจะพาพวกเขาผ่านพ้นรอบคัดเลือกมาได้ แต่ในรอบสุดท้าย มันคงไม่ง่ายนัก
a
ผู้ที่น่าจับตามอง
แคสเปอร์ ชไมเคิล – มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับ “เลสเตอร์ ซิตี้” โดยยังเป็นนายด่านที่ยิงผ่านมือได้ยากเช่นเคย ไว้ใจได้ในฐานะผู้เล่นคนสุดท้ายในแนวรับ เขาจะเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นของทัวร์นาเม้นท์อย่างแน่นอน
โรเบิร์ต สคอฟ – อาจจะไม่ใช่ผู้เล่นที่โด่งดัง แต่บ่อยครั้งที่เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม อันตรายในลูกตั้งเตะ และมีสถิติการทำประตูที่ดีทีเดียวในระดับทีมชาติ สามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง รวมถึงแบ็คซ้าย หรือแม้กระทั่งหมายเลข 10
คาสเปอร์ ดอลเบิร์ก – “เดนมาร์ก” ต้องการใครสักคนที่สามารถทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ มากกว่าที่จะยกระดับแนวรับขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ ซึ่งต้องรอชมกันว่า ศูนย์หน้าแห่ง “นีซ” รายนี้จะก้าวขึ้นมาในบทบาทดังกล่าวได้หรือไม่
a
คำทำนาย
ผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จ แต่น่าจะตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
a
รัสเซีย
ผู้เล่น “รัสเซีย” ส่วนใหญ่เล่นอยู่ภายในประเทศ โดยมีนักเตะ 4 คน ค้าแข้งอยู่ในพรีเมียร์ลีก ยังพอมีชื่อผู้เล่นที่เราคุ้นหูอยู่บ้างใน “ทีมชาติรัสเซีย” ซึ่งน่าจะเป็นลักษณะนี้ต่อไปอีกประมาณ 12 ปี อย่างไรก็ตาม ภายใต้การคุมทีมของ “สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ” ได้มีนักเตะหน้าใหม่ๆ ขึ้นมาสู่ทีมไม่น้อยเลยทีเดียว
“รัสเซีย” จบรอบคัดเลือกโดยเป็นรอง “เบลเยียม” อยู่ 6 คะแนน พวกเขาชนะทุกทีม แต่แพ้ให้กับ “เบลเยียม” ทั้งสองนัด
a
ผู้ที่น่าจับตามอง
อาร์เทม ซูบา – กัปตันทีม แข็งแกร่งดุจม้าศึก มีสถิติทำประตูในเกมระดับชาติอยู่ที่ 0.6 ลูกต่อเกม เป็นศูนย์หน้าที่ดูธรรมดามาก แต่เป็นการยากที่จะหยุดเขา
อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน – หนึ่งในดาวดังของฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา ในเวลานี้เขากลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้ง พร้อมกับสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ ซึ่งเราน่าจะเห็นการเล่นอย่างสร้างสรรค์ของเขาในทัวร์นาเม้นท์นี้
อเล็กเซย์ มิรานชุค – แม้ฤดูกาลแรกของเขากับ “อตาลันต้า” จะไม่นับว่าดีมากนัก แต่ก็ถือเป็นย่างก้าวสำคัญในเส้นทางนักเตะอาชีพนอกรัสเซีย ซึ่งเขามีศักยภาพที่จะเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต โดยเขาเป็นผู้เล่นที่มีคุณภาพในการครองบอล และยิงไกลได้อย่างยอดเยี่ยม
a
คำทำนาย
คงเป็นการยากที่จะเห็นพวกเขาทำเกมบุกเข้าใส่ “เดนมาร์ก” ได้อย่างสม่ำเสมอและหลากหลาย ซึ่งพวกเขาน่าจะทำได้เพียงอันดับ 3 ของกลุ่ม และจากสถิติที่ผ่านมา พวกเขาก็น่าจะยังดีไม่พอ เมื่อเทียบกับทีมที่น่าจะจบเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มอื่นๆ ดังนั้น พวกเขาน่าจะต้องเก็บประเป๋ากลับบ้าน หลังจากจบรอบแบ่งกลุ่ม
a
ฟินแลนด์
ช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจของชาติ ในการเขี่ยลูกเริ่มเกมในนัดแรก จะถูกจารึกลงในหน้าประวัติศาสตร์ของ “ฟินแลนด์ ” เมื่อพวกเขาผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก
พวกเขามีโอกาสทำได้มากกว่านั้นหรือไม่? แน่นอน ย่อมเป็นไปได้เสมอในฟุตบอลนัดเดียว ที่พวกเขาจะสร้างความประหลาดใจ โดยการพลิกล็อคเอาชนะทีมใดทีมหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาสามารถจบรอบคัดเลือก พร้อมกับคะแนนที่ดีกว่าทีมอย่าง “กรีซ” และ “บอสเนียฯ”
แต่เท่าที่กลุ่มนี้จะเปิดโอกาส ในรอบสุดท้ายของฟุตบอลรายการใหญ่เช่นนี้ มันเป็นไปได้ยากมากที่ทีมอย่าง “ฟินแลนด์ ” จะเอาตัวรอดไปได้
a
ผู้ที่น่าจับตามอง
มาร์คคู คาแนร์วา – ผู้จัดการทีม เคยคุมทีมชาติชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี และเคยเป็นผู้ช่วยในทีมชาติชุดใหญ่ ดังนั้น เขาจึงรู้จักนักเตะของเขาเป็นอย่างดี และสามารถสร้างทีมในแบบที่เขาต้องการ ซึ่งสมัยที่เขายังเป็นผู้เล่น เขาก็เคยติดทีมชาติอยู่บ้างเช่นกัน
ตีมู ปุ๊กกี้ – เป็นที่รู้จักในพรีเมียร์ลีก จากความสามารถในการทำประตูเป็นเวลา 2 ฤดูกาลแล้ว และในฤดูกาลหน้า เขาจะลงเล่นให้กับ “นอริช ซิตี้” ส่วนกับ “ฟินแลนด์ ” เขายิงประตูได้ 30 ลูก จากการลงเล่น 90 นัด ซึ่งเป็นอัตราการทำประตูที่น่าประทับใจไม่น้อย
ลูคัส ฮราเด็คกี้ – น่าจะเป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในทีมชุดนี้ ซึ่งผู้รักษาประตูรายนี้ ลงเฝ้าเสาในบุนเดสลีก้าเป็นเวลา 6 ปีแล้ว โดยในทัวร์นาเม้นท์ที่จะถึง เขาน่าจะมีงานชุกไม่น้อยเลยทีเดียว
a
คำทำนาย
ตกรอบแบ่งกลุ่ม
คุณอาจสนใจ :
ข้อมูลนักเตะลิเวอร์พูล
ตำนานสนามแอนฟิลด์
ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ทำเนียบแชมป์
ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล
a
Our References :
a
2,086 total views, 1 views today