โปรแกรมปรีซีซั่นของ "ลิเวอร์พูล" - ทุกสิ่งที่เรารู้จนถึงตอนนี้

โปรแกรมปรีซีซั่นของ “ลิเวอร์พูล” – ทุกสิ่งที่เรารู้จนถึงตอนนี้

“ลิเวอร์พูล” จะเริ่มโปรแกรมปรีซีซั่นในอีกเพียง 2 สัปดาห์ โดยคาดว่า ทีมของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” จะลงเล่นทั้งหมด 6 เกม ใน 5 ประเทศ

“ลิเวอร์พูล” สิ้นสุดฤดูกาลในวันที่ 28 พฤษภาคม ตามด้วยขบวนแห่ถ้วยรางวัลรอบเมืองในวันรุ่งขึ้น แต่อีกไม่นาน พวกเขาจะต้องกลับมาฝึกซ้อมอีกครั้งหนึ่ง

“คล็อปป์” และลูกทีมของเขาได้พักผ่อนในช่วงวันหยุดหลังจบฤดูกาล – แม้ว่าจะมีหลายคนที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในระดับทีมชาติ ก่อนที่พวกเขาจะได้พัก – ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการเติมพลัง ก่อนถึงฤดูกาลอันวุ่นวายอีกครั้งหนึ่ง

“ลิเวอร์พูล” ได้ยืนยันเกมอุ่นเครื่องจำนวน 4 นัด สำหรับโปรแกรมปรีซีซั่นของพวกเขา ในขณะที่ชัยชนะของพวกเขาในรายการ “เอฟเอคัพ” ทำให้พวกเขาจองที่นั่งในเกม “คอมมูนิตี้ชิลด์” อีกด้วย

แล้วเราคาดหวังอะไรได้บ้าง จากการเตรียมตัวระยะเวลา 4 สัปดาห์ ของ “ลิเวอร์พูล” สำหรับฤดูกาล 2022/23

4 กรกฎาคม
กลับมาที่ “เคิร์กบี้” วันแรก

9 กรกฎาคม
บินไปยังตะวันออกไกล (ประเทศไทย)

ยังไม่ยืนยัน
ฝึกซ้อมแบบเปิดในกรุงเทพฯ ประเทศไทย

12 กรกฎาคม
อุ่นเครื่องกับ “แมนฯ ยูไนเต็ด” ในกรุงเทพฯ

14 กรกฎาคม
ฝึกซ้อมแบบเปิดในกัลลัง ประเทศสิงค์โปร์

15 กรกฎาคม
อุ่นเครื่องกับ “คริสตัล พาเลซ” ในสิงค์โปร์

16 กรกฎาคม
บินออกจากตะวันออกไกล (น่าจะตรงไปยังประเทศเยอรมนี)

21 กรกฎาคม
อุ่นเครื่องกับ “อาร์เบ ไลป์ซิก” ในเยอรมนี

ยังไม่ยืนยัน
บินไปประเทศออสเตรีย

ยังไม่ยืนยัน
อุ่นเครื่องกับ “เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก” ออสเตรีย

30 กรกฎาคม
เกม “คอมมูนิตี้ชิลด์” กับ “แมนฯ ซิตี้”

31 กรกฎาคม
อุ่นเครื่องกับ “สตราส์บูร์ก” ที่ “แอนฟิลด์”

6 กรกฎาคม
เปิดสนาม “พรีเมียร์ลีก” กับ “ฟูแล่ม”

อันดับแรก วันที่ 4 กรกฎาคม ถูกกำหนดไว้สำหรับการกลับมารายงานตัวที่ “ศูนย์ฝึกซ้อมแอกซ่า” โดยจะมีการตรวจสุขภาพเบื้องต้น และการทดสอบสำหรับทีมชุดใหญ่

ซึ่งจะรวมถึงการทดสอบรอบๆ สนามที่ “เคิร์กบี้” โดย “จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, หลุยส์ ดิอ๊าซ, เจมส์ มิลเนอร์, โจเอล มาติป, ติอาโก้ อัลคันทาร่า และโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่” เป็นผู้เล่นกลุ่มที่คาดว่าจะกลับมาถึงในวันแรก

ส่วนคนอื่นๆ ที่เดินทางไปรับใช้ทีมชาติในช่วงกลางเดือนมิถุนายน น่าจะได้รับวันหยุดเพิ่มเติม แต่จะนานแค่ไหนนั้น จะต้องรอดูกันอีกครั้ง เมื่อ “ลิเวอร์พูล” มีกำหนดบินไปยังตะวันออกไกล ในวันที่ 9 กรกฎาคม

สถานีแรกของพวกเขาคือประเทศไทย โดยมีเกมอุ่นเครื่องกับ “แมนฯ ยูไนเต็ด” ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 12 กรกฎาคม

พวกเขาน่าจะจัดให้มีการฝึกซ้อมแบบเปิดในวันก่อนหน้า เช่นเดียวกับเมื่อพวกเขามุ่งหน้าไปยังสิงค์โปร์ โดย “คล็อปป์” จะนำผู้เล่นของเขาฝึกซ้อมในกัลลัง ในวันที่ 14 กรกฎาคม ก่อนการพบกับ “คริสตัล พาเลซ” ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงค์โปร์ ในวันที่ 15

“ลิเวอร์พูล” จะอยู่ในเอเชียเป็นเวลา 1 สัปดาห์เท่านั้น โดยจะออกเดินทางในวันที่ 16 กรกฎาคม โดยมีแนวโน้มว่าพวกเขาจะบินตรงไปยังเยอรมนี เพื่อเข้าค่ายฝึกซ้อมแรกจาก 2 แห่งในยุโรป

จากนั้น “ลิเวอร์พูล” จะลงเล่นกับ “อาร์เบ ไลป์ซิก” ที่ “เร้ดบูลล์ อารีน่า” ในวันที่ 21 กรกฎาคม หลังจากนั้นคาดว่าพวกเขาจะบินไปยังออสเตรีย ก่อนที่จะมีเกมกระชับมิตรกับ “เร้ดบูลล์ ซัลส์บวร์ก” ซึ่งยังไม่ได้รับการยืนยัน

เนื่องจากมีเวลา 8 วัน ระหว่างเกมอุ่นเครื่องที่ “ไลป์ซิก” และเกม “คอมมูนิตี้ชิลด์” ดังนั้นน่าจะเป็นวันที่ 24 หรือ 25 กรกฎาคม สำหรับการพบกับ “ซัลส์บวร์ก”

อย่างไรก็ตาม “ลิเวอร์พูล” ควรจะกลับมาที่เมอร์ซีย์ไซด์อย่างน้อย 2 วัน ก่อนพบกับ “แมนฯ ซิตี้” ที่ “คิง เพาเวอร์” ในวันที่ 30 กรกฎาคม

ซึ่งนั่นยังไม่สิ้นสุดตารางปรีซีซั่นของพวกเขา เนื่องจากยังมีการอุ่นเครื่องกับ “สตราสบูร์ก” จากฝรั่งเศสที่ “แอนฟิลด์” เป็นเกมที่ 2 ในสุดสัปดาห์เดียวกัน โดยผู้ที่ไม่ได้ลงเป็นตัวจริงในเกม “คอมมูนิตี้ชิลด์” น่าจะได้รับโอกาสลงสนาม

จากนั้น “ลิเวอร์พูล” จะเริ่มต้นฤดูกาล “พรีเมียร์ลีก” ด้วยการเดินทางไป “ฟูแล่ม” ในวันที่ 6 สิงหาคม