“โคนาเต้” กลับมาเยือนปารีสพร้อมความฝัน “เซ็นเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดในโลก”
“อิบราฮิมา โคนาเต้” ออกจากปารีสเมื่ออายุ 14 ปี ด้วยความฝันที่จะเป็นแค่นักฟุตบอลอาชีพ แต่เขากลับมาที่บ้านเกิดของเขาเพื่อลงเล่น “แชมเปี้ยนส์ลีก” นัดชิงชนะเลิศ โดยมีเป้าหมายที่จะเป็น “กองหลังตัวกลางที่ดีที่สุดในโลก”
นักเตะชาวฝรั่งเศสรายนี้เติบโตขึ้นในเขตที่ 11 ของเมือง ในรัศมี 5 ไมล์จากสนาม “สต๊าด เดอ ฟรองซ์” ซึ่งจะเป็นสังเวียนการแข่งขันกับ “เรอัล มาดริด” ในวันเสาร์นี้
เขาเล่นฟุตบอลข้างถนนในกรง ที่กระจายตัวอยู่ท่ามกลางแฟลตและอพาร์ตเมนต์ต่างๆ แต่เขาไม่เคยได้ไปที่สนามกีฬาแห่งชาติ จนกระทั่งเขาย้ายไป “โซโชซ์” เมื่ออายุ 14 ปี และได้กลับมาดูทีมชุด U18 ของสโมสรคว้าแชมป์ “คูป กัมบาร์เดลลา” (ฟุตบอลถ้วยสำหรับชุด U18 ในระดับสโมสร) ในปี 2015
ตอนนี้เขากลับมาช่วยให้ “ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ “แชมเปี้ยนส์ลีก” ครั้งที่ 2 ในรอบ 4 ปี และครั้งที่ 7 ในประวัติศาสตร์ของพวกเขา ซึ่งนับว่าไกลมาก จากจุดเริ่มต้นอันต่ำต้อยของเขา
“ความฝันของผมในขณะนั้นคือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แค่นักฟุตบอลอาชีพ” เขากล่าว
“แน่นอน ตอนผมอายุ 14 การอยู่ในสโมสรระดับท็อปไม่เคยอยู่ในความคิดของผมเลย ถ้ามีคนถามผมว่า คุณคิดว่าจะได้เล่นให้ ‘ลิเวอร์พูล’ ตอนอายุเท่าไหร่ ผมก็จะตอบว่า 28 หรือ 29 กระมัง”
“ในตอนนั้น ความฝันคือการได้เล่นฟุตบอลอาชีพ ผมไม่สามารถคิดไปไกลกว่านั้น”
“ความฝันหรือเป้าหมายในตอนนี้น่ะเหรอ? วันหนึ่งผมจะเป็นกองหลังตัวกลางที่ดีที่สุดในโลก และลุ้นแชมป์ทุกรายการ”
เพื่อให้บรรลุความทะเยอทะยานส่วนตัวของเขา เขาจะต้องรับช่วงต่อจากเพื่อนร่วมทีมอย่าง “เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค” ซึ่งได้รับการยอมรับว่า “ดีที่สุด” ในตำแหน่งเดียวกับเขา
การได้เล่นเคียงข้างกัปตันทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ถือเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่สำคัญสำหรับนักเตะชาวฝรั่งเศสรายนี้ ซึ่งมีอายุครบ 23 ปี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นับตั้งแต่เขาย้ายมาจาก “แอร์เบ ไลป์ซิก” ด้วยค่าตัว 36 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์
แต่ภูมิหลังการเล่นฟุตบอลข้างถนนในปารีสนั้นมีรูปแบบที่เท่าเทียมกัน
“ผมเล่นในกรง ผมคิดว่าเช่นเดียวกับเด็กๆ ชาวปารีสส่วนใหญ่ เราไม่สามารถไปดูฟุตบอลที่สนามได้ เราไม่มีเงิน และเราไม่ได้เล่นในสนามจริงๆ ด้วยซ้ำ เราไม่มีโอกาสเหล่านั้น”
“แต่เราหาทางเล่นฟุตบอลได้ทุกที่ทุกเวลา แม้กระทั่งกับกระดาษ ผมจำได้ว่าที่โรงเรียนเราใช้เทปพันกระดาษทำลูกฟุตบอลเพื่อเล่นกัน”
“เราไม่ต้องการอะไรมากมายเพื่อที่จะมีความสุข เรามีความสุขที่ได้เล่นตามท้องถนน”
“ถ้าเป็นลูกบอลที่ทำจากโฟม หนัง หรือพลาสติก มันจะทำให้เราไม่ว่างทั้งวันเลยล่ะ”
“เราจะเล่นตามท้องถนน ในกรงต่างๆ ผม และน้องชาย ผมคิดว่านั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเราถึงได้มีทักษะความสามารถแบบนี้”
“ทุกคนรู้ดีกว่าปารีสเป็น ‘แหล่งบ่มเพาะ’ ของผู้เล่นที่มีพรสวรรค์มากมาย นับว่าผมโชคดีที่มาได้ถึงระดับนี้ แต่มันยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดหรอกนะ ผมยังมีเป้าหมายอีกมากมายที่ต้องไปให้ถึง”
“โคนาเต้” ต้องแข่งกับ “โจเอล มาติป” ในการจับคู่กับ “ฟาน ไดจ์ค” ในนัดชิงชนะเลิศ โดยเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริง 6 จาก 7 เกมหลังสุดในรายการ “แชมเปี้ยนส์ลีก”
“เจอร์เก้น คล็อปป์” ต้องตัดสินใจว่าจะเลือกประสบการณ์ของ “มาติป” ในการเผชิญหน้ากับ “เรอัล มาดริด” ซึ่งจะมี “คาริม เบนเซม่า” ยืนเป็นศูนย์หน้า หรือจะเลือกดาวรุ่งที่กำลังเข้าฟอร์มอย่าง “โคนาเต้”
“ผมไม่เคยจินตนาการถึงมันเลย” เขากล่าวถึงฤดูกาลแรกของเขาที่ “ลิเวอร์พูล” ซึ่งสามารถคว้าแชมป์ “ลีกคัพ” และ “เอฟเอคัพ” ได้สำเร็จ และพลาดแชมป์ “พรีเมียร์ลีก” ด้วยคะแนนเพียง 1 แต้มเท่านั้น
“ผมรู้ดีว่า ผมเข้ามาอยู่ในสโมสรใหญ่ที่ต้องการคว้าแชมป์ต่างๆ แต่ฤดูกาลนี้มันสุดยอดจริงๆ มันน่าทึ่งมากๆ”
“ผมคิดว่า นัดชิงชนะเลิศนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของผมอย่างแน่นอน ผมยังไม่มีลูก ผมก็ไม่แน่ใจนัก แต่ผมคิดว่ามันจะช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลยล่ะ”
“แชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศ ในปารีส ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผม ผมไม่สามารถฝันถึงอะไรที่ดีกว่านี้ได้แล้ว”
คุณอาจสนใจ :
ตำนานสนามแอนฟิลด์
ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ทำเนียบแชมป์
ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล
a
Our References :
a
565 total views, 1 views today