เจาะ 9 ประเด็นก่อนเกม “ลิเวอร์พูล” เปิดแอนฟิลด์บู๊ “แมนฯ ยูไนเต็ด”
“ลิเวอร์พูล” เตรียมเปิดบ้านต้อนรับคู่แข่งอย่าง “แมนฯ ยูไนเต็ด” ในค่ำคืนวันอังคารนี้ ซึ่งจะเป็นการปะทะกันครั้งใหญ่ใน “พรีเมียร์ลีก” เมื่อ “ลิเวอร์พูล” ต่อสู้เพื่อตำแหน่งแชมป์ ส่วนผู้มาเยือนต้องการตำแหน่งท็อปโฟร์
“ลิเวอร์พูล” ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ “เอฟเอคัพ” ด้วยชัยชนะเหนือ “แมนฯ ซิตี้” 3-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการหยุดพักสำหรับ “ลิเวอร์พูล” ด้วยเกมเหย้าที่ต้องเอาชนะ “แมนฯ ยูไนเต็ด” ให้ได้
นี่คือ 9 ประเด็นก่อนเกมใหญ่ในค่ำคืนนี้
1. ฤดูกาลอันไม่น่าจดจำสำหรับ “แมนฯ ยูไนเต็ด”
ย้อนกลับไปในเดือนสิงหาคม บางคนมองว่า “แมนฯ ยูไนเต็ด” เป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งแชมป์ตัวจริง หลังจากการเซ็นสัญญาของ “คริสเตียโน่ โรนัลโด้, จาดอน ซานโช่ และราฟาเอล วาราน”
สิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดหวัง โดย “โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์” ถูกปลดในเดือนพฤศจิกายน และทีม “ปีศาจแดง” ก็ทำได้แค่อันดับที่ 5 ภายใต้ “ราล์ฟ รังนิค”
ความพ่ายแพ้ในบ้านต่อ “ลิเวอร์พูล” 5-0 เป็นคำจำกัดความของความอัปยศในฤดูกาลนี้ และดูเหมือนผู้เล่นของพวกเขาจะขาดความใส่ใจต่อทีมมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงมีขุมกำลังที่มีคุณภาพ ไม่ใช่เพียงแค่ “โรนัลโด้” เท่านั้น และพวกเขาน่าจะต้องการดับความหวังในการคว้า 4 แชมป์ของ “ลิเวอร์พูล”
2. ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องหลัง “เฟอร์กี้” ลงจากตำแหน่ง
แฟนๆ “ลิเวอร์พูล” รู้ดีว่า “แมนฯ ยูไนเต็ด” เป็นทีมที่ดีที่สุดในประเทศมาหลายทศวรรษ แต่หลังจากนั้นสิ่งต่างๆ ก็ค่อยๆ เลือนหายไป
เป็นเวลา 9 ปีแล้วที่ “อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” อำลา “แมนฯ ยูไนเต็ด” ซึ่งพวกเขาไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้อีกเลย
ไม่เพียงแค่นั้น พวกเขายังไม่เคยคว้าถ้วยรางวัลใดๆ นับตั้งแต่ปี 2017 ที่พวกเขาได้แชมป์ “ยูโรป้าลีก”
ดังนั้น 9 ปีก็อาจจะกลายเป็น 30 ปีได้เป็นได้!!!
3. คาดการณ์ 11 ตัวจริง “แมนฯ ยูไนเต็ด”
“แมนฯ ยูไนเต็ด” มีปัญหาอาการบาดเจ็บมากมาย โดยมีนักเตะตัวหลักหายไปถึง 5 ราย
“ลุค ชอว์” ยังคงได้รับผลกระทบจากการขาหักก่อนหน้านี้ ขณะที่ “วาราน” ก็ยังไม่กลับมา เช่นเดียวกับ “แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด และคาวานี่”
ดูเหมือนว่าทีมก็คงจะคล้ายๆ กับชุดที่เอาชนะนอริช 3-2 ในบ่ายวันเสาร์ โดย “โรนัลโด้” น่าจะเป็นผู้นำในเกมนี้
“บรูโน่ แฟร์นันเดส” น่าจะพร้อมลงเล่น แม้จะประสบอุบัติเหตุรถชนในวันจันทร์ที่ผ่านมาก็ตาม
คาดการณ์ 11 ตัวจริง “แมนฯ ยูไนเต็ด” : เด เคอา-ดาโลต์, ลินเดอเลิฟ, แม็คไกวร์, แตลิส-มาติช, ป็อกบา, บรูโน่-อีแลงก้า, ซานโช่, โรนัลโด้
4. “ลิเวอร์พูล” ใครหายไปบ้าง?
อีกครั้งที่ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะแม้แต่คนดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาฝันถึงในฤดูกาลที่แล้ว
แม้ว่าโปรแกรมการลงเตะของ “ลิเวอร์พูล” จะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่นักเตะทุกคนในทีมก็พร้อมสำหรับการคัดเลือกเพื่อต้อนรับการมาเยือนของ “แมนฯ ยูไนเต็ด”
สถานการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ เลยนะ!!!
5. คาดการณ์ 11 ตัวจริง “ลิเวอร์พูล”
คงจะน่าประหลาดในไม่น้อย หาก “คล็อปป์” จะจัดทีมที่ไม่เปลี่ยนแปลงเลยจากวันเสาร์ เนื่องจากเขาต้องการรักษาความสดใหม่ของนักเตะภายในทีม
“โจเอล มาติป” อาจจะกลับมาแทนที่ “อิบราฮิมา โคนาเต้” ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ ในขณะที่ “จอร์แดน เฮนเดอร์สัน” ก็มีโอกาสกลับมาประจำการในแดนกลาง
อย่างที่พูดกันว่า “ฟาบินโญ่, ติอาโก้ และเกอิต้า” เป็นสามประสานที่แสนจะลงตัว ดังนั้นคำถามก็คือ “คล็อปป์” เต็มใจที่เปลี่ยนแปลงในตำแหน่งนี้หรือไม่
ในขณะที่ “ดิโอโก้ โชต้า” อาจเข้ามาแทนที่ “โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์, หลุยส์ ดิอ๊าซ หรือซาดิโอ มาเน่” คนใดคนหนึ่ง ซึ่งดูเหมือน “ซาล่าห์” จะฟอร์มแย่สุดในสามคนนี้ แต่มันคงจะน่าประหลาดใจไม่น้อย หากไม่มีชื่อของเขา
คาดการณ์ 11 ตัวจริง “ลิเวอร์พูล” : อลิสซอน-อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, มาติป, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน-ฟาบินโญ่, ติอาโก้, เฮนเดอร์สัน-ซาล่าห์, ดิอ๊าซ, มาเน่
6. “ซาล่าห์” แค่รอเวลาของเขา
ในการแถลงข่าวของเขาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา “คล็อปป์” มิได้แสดงความกังวลใจใดๆ เกี่ยวกับฟอร์มล่าสุดของ “ซาล่าห์”
หวังว่า “ซาล่าห์” จะเพิ่มสถิติ 7 ประตูจาก 9 เกมกับ “แมนฯ ยูไนเต็ด” ในคืนวันอังคารนี้ หลังจากเขาทำแฮตทริกที่ “โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” เมื่อต้นฤดูกาล
7. สถิติ 5 นัดหลังสุดในบ้าน
“ลิเวอร์พูล” มีสถิติการเล่นในบ้านกับ “แมนฯ ยูไนเต็ด” อันยอดเยี่ยมในช่วงหลังๆ โดยไม่แพ้เลยในการพบกัน 5 เกมล่าสุด
ผลเสมอ 0-0 ในฤดูกาลที่แล้วที่ “แอนฟิลด์” อันว่างเปล่าช่างเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย โดย “แมนฯ ยูไนเต็ด” พลาดโอกาสทองในการเอาชนะ “ลิเวอร์พูล” ที่เต็มไปด้วยปัญหาการบาดเจ็บ
ในฤดูกาล 2019/20 แห่งการคว้าแชมป์ “ลิเวอร์พูล” เอาชนะ “แมนฯ ยูไนเต็ด” 2-0 อย่างสุดมันส์ โดยได้ประตูจาก “เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค” และ “โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์”
นอกจากนั้นพวกเขายังสามารถเอาชนะทีมจากแมนเชสเตอร์ได้ 3-1 ในปี 2018/19 และเสมอกันแบบไร้สกอร์ใน 2 ฤดูกาลก่อนหน้านั้น
8. คุณรู้หรือไม่?
ยังไม่แน่ชัดว่า “อิบราฮิมา โคนาเต้” จะได้ลงเล่นในเกมกับ “แมนฯ ยูไนเต็ด” หรือไม่ แต่สถิติของเขากับ “ลิเวอร์พูล” นับตั้งแต่ย้ายมาแสดงให้เห็นว่าเขาควรจะลงเล่น
นักเตะฝรั่งเศสรายนี้ลงเล่นให้กับ “ลิเวอร์พูล” ไปแล้ว 22 เกม และเขายังไม่เคยลิ้มรสความพ่ายแพ้เลยแม้แต่เกมเดียว
17 เกมจากทั้งหมดจบลงด้วยชัยชนะ โดยเสมอเป็นจำนวน 5 เกม โดยเกมที่เสมอกับ “ไบรท์ตัน” 2-2 ในบ้านถือเป็นผลงานที่ผิดหวังที่สุดของ “โคนาเต้” ในแง่ของเกมที่เขาได้ลงเป็นตัวจริง
เขายังคงมีความดิบเป็นบางครั้ง และจะพัฒนาขึ้นไปอีกในปีต่อๆ ไป แต่ผลงานของเขามีผลกระทบต่อทีมเป็นอย่างมาก อย่างที่สถิติแสดงให้เราได้เห็น
9. “แอตกินสัน” จะเป่าเกมนี้
“มาร์ติน แอตกินสัน” ได้รับการยืนยันว่าจะเป็นผู้ตัดสินในเกมนี้
นี่เป็นเพียงเกมที่ 2 ของ “ลิเวอร์พูล” ในลีกที่เขาจะลงทำหน้าที่ในฤดูกาลนี้ โดยอีกเกม “ลิเวอร์พูล” เอาชนะ “เบิร์นลีย์” 1-0 ในเดือนกุมภาพันธ์
นอกจากนั้น “แอตกินสัน” ยังเป็นผู้ตัดสินในเกม “เอฟเอคัพ” และ “ลีกคัพ” ที่ “ลิเวอร์พูล” เอาชนะ “นอริช” และ “อาร์เซน่อล” ตามลำดับ ดังนั้นมันจึงน่าจะเป็นลางที่ดีก่อนคืนวันอังคาร
อย่างไรก็ตาม “พอล เทียร์นีย์” ผู้โด่งดังจะทำหน้าที่ดูแล VAR ในเกมนี้!!!
คุณอาจสนใจ :
ตำนานสนามแอนฟิลด์
ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ทำเนียบแชมป์
ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล
a
Our References :
a
950 total views, 2 views today