
5 ประเด็นหลังเกม ลิเวอร์พูล ชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-0
การกลับมาที่แอนฟิลด์ของ “ลิเวอร์พูล” ต่อหน้าแฟนๆ จบลงด้วยการเฉลิมฉลองสำหรับทุกคน ด้วยผลงานในครึ่งเวลาหลังอันแข็งแกร่ง ในเกมที่เอาชนะ “เบิร์นลี่ย์” ไปได้ 2-0
a
“เอลเลียตต์” ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง

“เจอร์เก้น คล็อปป์” ส่งเจ้าหนูลงเล่นเป็นตัวจริงเร็วกว่าที่ใครๆ คาดคิด
ในการลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกของ “เอลเลียตต์” สำหรับ “ลิเวอร์พูล” ในเกมที่ต้องพบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งกร้าวที่สุดทีมหนึ่ง เขาก็ทำได้ไม่เลวเลย
ในช่วงต้นเกม เขาถูกทำฟาวล์ 2-3 ครั้ง และถูกแย่งบอล 1 ครั้ง แต่การเล่นบอลจังหวะแรกและความสามารถในการเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ของเขา แสดงให้เห็นว่าเขานั้นไม่ธรรมดาเลย
เขาถูกปฏิเสธการได้แอสซิสต์จากการผ่านบอลอันยอดเยี่ยมให้กับ “โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์” ด้วยธงล้ำหน้าในครึ่งเวลาแรก และเขามีส่วนร่วมกับเกมบ่อยครั้งหลังจากพักครึ่ง และทำผลงานได้ดีในการได้ประตูที่ 2 ของ “ลิเวอร์พูล”
ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการลงเล่นเป็นตัวจริงของนักเตะวัย 18 ปี ในเกมต่อๆ ไปอีกแล้ว
a
แฟนๆ กลับสู่แอนฟิลด์

กว่า 52,000 คนในสนาม พวกเขามีความสุขกันมากๆ โดยเฉพาะในครึ่งเวลาหลัง
แฟนๆ “ลิเวอร์พูล” ใช้เวลาถึง 6 นาทีในการเตือน “นิค โป๊ป” ว่าเขากลับมายังสนามที่มีแฟนบอลให้การสนับสนุนทีมเจ้าบ้าน ในจังหวะที่เขาพยายามดึงเกมให้ช้าลง เวลาได้ลูกตั้งเตะจากประตู
การโจมตีจากแฟนๆ แรงขึ้นเล็กน้อยหลังจากพักครึ่ง และมีการร้องเพลงของ “ซาล่าห์, ฟาน ไดจ์ค และฟีร์มีโน่” กันอย่างสนุกสนาน
หลังจากฟอร์มการเล่นอันย่ำแย่ในการลงเล่นในแอนฟิลด์อันว่างเปล่าในฤดูกาลก่อน นี่คือสิ่งที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
การเชียร์ที่ดีที่สุดในเย็นวันนี้น่ะเหรอ?
“ซิมิคาส” ในช่วงท้ายเกมยังไงล่ะ ตอนที่เขาเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ได้ 3 คนในระยะเพียง 5 เมตร!!!
a
“โชต้า” ฟอร์มแรงต่อเนื่อง

กองหน้าชาวโปรตุเกสเป็นกองหน้าประเภท “โป้งปิดบัญชี” มากกว่าที่จะมีส่วนร่วมกับเกมอย่างต่อเนื่องตลอด 90 นาที
เขายังกลายเป็นผู้เล่นที่มีฟอร์มอันยอดเยี่ยมในการล่าตาข่าย เมื่อเทียบกับกองหน้าที่ยิงได้เพียง 1-2 ประตูใน 2-3 เกม
เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เขาทำได้ 8 ประตูในช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน และจากนั้นก็ทำได้อีก 3 ประตูหลังจากได้รับบาดเจ็บ
ส่วนฤดูกาลนี้เขาเริ่มต้นด้วย 2 ประตูใน 2 เกม บวกกับอีก 2-3 ประตูในช่วงปรีซีซั่น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเกมที่จะมาถึง ความคงเส้นคงวานั้นยังคงเป็นปัจจัยสำคัญเสมอ
a
สร้างโอกาสได้ดีขึ้น

ในครึ่งเวลาหลัง “ลิเวอร์พูล” เหยียบคันเร่งมากขึ้น
“ซาล่าห์, มาเน่, โชต้า, ฟาน ไดจ์ค และเอลเลียตต์” มีโอกาสทำประตูในช่วง 20 นาทีแรกหลังจากพักครึ่ง แต่ถูกป้องกันไว้ได้จากแนวรับของ “เบิร์นลี่ย์”
ซึ่งในที่สุด “มาเน่” ก็หาทางยิงประตูของเขาผ่านมือ “โป๊ป” ได้สำเร็จ ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในจังหวะการประสานงานที่ดีที่สุดในเกมนี้เลยทีเดียว
เมื่อ “ลิเวอร์พูล” เร่งสปีดเกม มีไม่กี่ทีมหรอกที่จะเอาตัวรอดไปได้
a
ชัยชนะ 2 เกมรวดก่อนพบกับ “เชลซี”

“ลิเวอร์พูล” พบกับ “เชลซี” มักจะถูกมองว่าเป็นการปะทะกันของ 2 ทีมที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ แม้ว่าครั้งนี้การพบกันจะเกิดขึ้นเร็วเกินไปที่จะตัดสินอะไรได้ก็ตาม
แต่มันยังคงเป็นเกมที่เราจะต้องเอาชนะให้ได้ โดยแสดงให้เห็นว่า เราคือหนึ่งในคู่ต่อสู้ของพวกเขา และอย่างน้อยก็ไม่ให้พวกเขาทำแต้มทิ้งห่างจากเรา
ผู้เล่น 1-2 คนกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง “ฟาบินโญ่” จะกลับมาลงเล่น “ฟาน ไดจ์ค” กลับมาท็อปฟอร์ม “อลิสซอน” เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นการเริ่มต้นฤดูกาลที่ดีจริงๆ
คุณอาจสนใจ :
ข้อมูลนักเตะลิเวอร์พูล
ตำนานสนามแอนฟิลด์
ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ทำเนียบแชมป์
ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล
a
Our References :
a
3,268 total views, 1 views today