สตีเวน เจอร์ราร์ด อดีตกองกลางกัปตันทีมลิเวอร์พูล ออกมาแสดงความเป็นห่วงสังกัดเก่าของตัวเอง ว่าต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการแข่งขันฤดูกาลหน้า แม้ว่าทีมหงส์แดง เพิ่งจะมีการฉลองแชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2024-25 ไปแบบสุดยิ่งใหญ่
ลิเวอร์พูล สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษมาครองได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 20 ภายใต้การทำทีมฤดูกาลแรกของเฮดโค้ชคนใหม่อย่าง อาร์เนอ ชล็อต กุนซือจากเนเธอร์แลนด์
ซึ่งการคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ของลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ ถือเป็นแชมป์ที่แฟนบอลหงส์แดงเฝ้ารอกันมาอย่างยาวนาน เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเขาได้แชมป์เมื่อฤดูกาล 2019-20 นั้น พวกเขาไม่ได้มีการเฉลิมฉลองร่วมกับแฟนบอล เนื่องจากติดการระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม หลังจากการฉลองแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ทาง สตีเวน เจอร์ราร์ด ตำนานกัปตันทีมหงส์แดง ได้ออกมากระตุ้นทีมเก่าของเขาให้รีบเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลใหม่ให้ดี เพราะการลงเล่นในตำแหน่งแชมป์เก่านั้น จะเป็นเป้าหมายในการถูกโค่นจากทีมต่าง ๆ และหลายสโมสรดังต่างก็มีการพัฒนาทีมและการเสริมทัพอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้เขายังออกมาแสดงความเห็นว่า 5 ทีมที่จะเป็นอุปสรรคสำคัญในการป้องกันแชมป์ของลิเวอร์พูล ว่า
“มันคือลีกที่ยากที่สุดในโลก ลิเวอร์พูลจะต้องตระหนักให้ดีว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะกลับมา, อาร์เซนอล ก็ดูแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง, ทีมอย่าง เชลซี กำลังสร้างทีมที่ได้, ส่วน นิวคาสเซิล กับ แอสตัน วิลลา ก็ตามมาอีก”
“ลิเวอร์พูลต้องรู้ว่าพวกเขาจะเป็นทีมที่ตกเป็นเป้าหมายในตอนนี้ แต่ลิเวอร์พูลเองก็กำลังจะทำได้อย่างแข็งแกร่งในตลาดซื้อขายนักเตะ ดังนั้น ลิเวอร์พูลจะเป็นทีมที่ต้องจับตามองอย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ต้องบอกว่าทางทีมลิเวอร์พูลเองก็ไม่ได้หยุดนิ่งหลังจากคว้าแชมป์และตลาดซื้อขายของพวกเขาในช่วงฤดูร้อนนี้ก็เริ่มคึกคักแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศเปิดตัวนักเตะใหม่อย่าง เจเรมี ฟริมปง ตัวริมเส้นฝั่งขวาจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซน เข้ามาทดแทน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ย้ายไปอยู่กับทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด
ขณะเดียวกันทางทีมก็มีกระแสเชื่อมโยงกับนักเตะรายอื่นอีก ทั้ง มิลอส เคอร์เคซ ฟูลแบ๊กจากบอร์นมัธอีกหนึ่งทีมจากพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่เข้าใกล้การปิดดีลย้ายมาอยู่กับลิเวอร์พูลแล้ว
นอกจากนี้ยังมี ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ตัวรุกจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาหาข้อตกลงเรื่องค่าตัวที่มีโอกาสพุ่งสูงไปถึง 150 ล้านยูโรเลยทีเดียว
121 total views, 15 views today
