รู้จักกับ “อิบราฮิมา โคนาเต้” เซ็นเตอร์ตัวใหม่ แบบเจาะลึก
ในที่สุด “ลิเวอร์พูล” ก็ปิดดีลสำหรับเซ็นเตอร์แบ็คคนใหม่ “อิบราฮิมา โคนาเต้” จาก “อาร์เบ ไลป์ซิก” เป็นที่เรียบร้อย เราจะขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับนักเตะฝรั่งเศสรายนี้ให้มากขึ้น
การย้ายทีมด้วยค่าตัว 36 ล้านปอนด์ ของ “โคนาเต้” ได้รับการยืนยัน ในฐานะการเซ็นสัญญานักเตะใหม่รายแรกของ “ลิเวอร์พูล” ในซัมเมอร์นี้ ซึ่ง “เจอร์เก้น คล็อปป์” ได้อธิบายว่า “หลังจากที่พวกเราประสบกับปัญหาการบาดเจ็บในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันเป็นจุดที่เราจำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่ง”
“โคนาเต้” ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เล่นในระดับสูง นั่นเป็นสิ่งที่ชัดเจน อายุและคุณภาพของเขาตรงกับลักษณะของผู้เล่นที่ “ลิเวอร์พูล” ต้องการนำมาสู่แอนฟิลด์
เขาอายุ 21 ปี สูง 190 เซนติเมตร มีความเร็ว เก่งในลูกกลางอากาศ เป็นเซ็นเตอร์แบ็คฝั่งขวา และเขามีเงื่อนไขการปล่อยตัวในสัญญาอีกด้วย
a
เขาเป็นใคร?
“อิบราฮิมา โคนาเต้” เกิดในประเทศฝรั่งเศส โดยมีเชื้อสายมาลี ย้ายจาก “โซโชซ์” ไปยัง “อาร์เบ ไลป์ซิก” ในปี 2017 ในวัยเพียง 18 ปี เท่านั้น
“เจอร์เก้น คล็อปป์” กล่าวถึง “โคนาเต้” ว่าเป็นผู้เล่นที่เขาชื่นชอบมาเป็นเวลานานแล้ว เขาเริ่มตระหนักถึงศักยภาพของเด็กคนนี้ ตั้งแต่เมื่อเล่นอยู่กับ “โซโชซ์”
“อิบู” (Ibu) เป็นชื่อที่เพื่อนร่วมทีมเรียก “โคนาเต้” เขาเป็นเป้าหมายแรกๆ ของ “ลิเวอร์พูล” ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คมาสักพักหนึ่งแล้ว การย้ายทีมอาจจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคมที่ผ่านมาเสียด้วยซ้ำ หากทั้งสองทีมไม่โคจรมาพบกันในแชมเปี้ยนส์ลีกเสียก่อน
ในวัยของเขา ต้องนับว่า “อิบราฮิมา โคนาเต้” มีประสบการณ์มากมายในการแข่งขันระดับแนวหน้าของยุโรป และได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก มุมมองทั่วไปเกี่ยวกับเขาก็คือ “เขายังค่อนข้างดิบ แต่มีศักยภาพสูงมาก” ก่อนหน้านี้ “โคนาเต้” เคยมีข่าวเชื่อมโยงกับ “เรอัล มาดริด” และ “แมนฯ ยูไนเต็ด” รวมถึงทีมอื่นๆ อีกด้วย
“โคนาเต้” เป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่ถนัดขวา และเขาชอบที่จะพาบอลขึ้นจากแนวรับ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม
“โคนาเต้” ยังไม่ได้เปิดตัวกับทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ แต่เขาเป็นตัวจริงในชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ในขณะนี้เขากำลังเดินทางกับทีมชาติฝรั่งเศสไปทำศึกยูโรรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปี ในรอบน็อกเอาท์
a
อะไรคือจุดแข็งของเขา?
ที่ส่วนสูง 190 เซนติเมตร “โคนาเต้” ลอยตัวอยู่ในอากาศได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ด้วยพลังกำลังในการกระโดดที่ดี และความสูงของเขา ทำให้เขามีความสามารถในการเล่นลูกกลางอากาศใกล้เคียงกับ “เวอร์จิล ฟานไดจ์ค” เลยทีเดียว
นอกจากนั้น “โคนาเต้” มีทักษะฝีเท้าที่ดี ซึ่งอย่างที่เราได้เห็นในฤดูกาลที่ผ่านมาว่า สิ่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อระบบโดยรวมของ “ลิเวอร์พูล” ที่ชอบดันเกมขึ้นสูง และนั่นเป็นสาเหตุที่ “ลิเวอร์พูล” ต้องเฟ้นหาเซ็นเตอร์แบ็คคนใหม่ที่มีคุณภาพในเรื่องนี้
“คุณลักษณะทางกายภาพของเขาน่าประทับใจมาก เขามีความเร็ว แข็งแกร่ง และโดดเด่นในลูกกลางอากาศ” คล็อปป์กล่าว
ในยามต้องดวลกับคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสกัด การเลี้ยงบอล หรือลูกโหม่ง เขาเหมือนกับ “โจ โกเมซ” แต่ทำได้ดีกว่า จากข้อมูลเชิงลึกของสำนักข่าวแห่งหนึ่ง
หนึ่งในจุดแข็งที่สำคัญของ “โคนาเต้” ก็คือเขาสามารถเลี้ยงพาบอลออกจากแนวรับได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งน่าจะดีกว่าผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกับเขาทุกคนที่ “ลิเวอร์พูล” โดยเฉพาะในสถานการณ์ตัวต่อตัว
a
แล้วจุดที่เขาจำเป็นต้องปรับปรุงล่ะ?
ในรายงานเชิงลึกของทีมแมวมองเขียนว่า “ความสามารถในการแย่งบอลกลับคืนมายังค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐาน” ดังนั้น เป็นที่ชัดเจนว่า เขาจำเป็นต้องพัฒนาในจุดนี้เพิ่มเติม
แต่ในวัย 21 ปี นั่นเป็นสิ่งที่สามารถสอนและปรับปรุงได้อย่างแน่นอน และมันก็ไม่ใช่ข้อบกพร่องในด้านพื้นฐานแต่อย่างใด
“โคนาเต้” จำเป็นต้องพัฒนาการส่งบอลยาวของเขาด้วยเช่นกัน ซึ่งเซ็นเตอร์แบ็คของ “ลิเวอร์พูล” มักใช้ในการเล่นเกมสวนกลับอย่างฉับพลัน
อย่างไรก็ตาม เราควรจะต้องอธิบายว่า สไตล์การส่งบอลของเขาส่วนหนึ่งเกิดจากสิ่งที่เขาถูกสั่งให้ทำที่ “ไลป์ซิก” ซึ่งความสามารถในการเลี้ยงพาบอลออกมาจากแนวรับ เป็นหนึ่งในแท็คติคที่ต้องการเชื้อเชิญให้คู่ต่อสู้เข้ามากดดัน
a
เขามีค่าตัวเท่าไร?
“โคนาเต้” เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ “ไลป์ซิก” ในปี 2019 ซึ่งสัญญาจะไปสิ้นสุดในปี 2023 แต่ในสัญญาระบุเงื่อนไขการปล่อยตัว หาก “ไลป์ซิก” ได้ข้อเสนอไม่ต่ำกว่า 41 ล้านยูโร (หรือ 36 ล้านปอนด์) ซึ่งนั่นเป็นราคาที่ “ลิเวอร์พูล” จะต้องจ่ายให้กับ “ไลป์ซิก”
a
เหตุใดเขาจึงไม่ลงเล่นในเกมที่เจอกับ “ลิเวอร์พูล” ?
“โคนาเต้” เพิ่งกลับมาจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม และทำให้เขาพลาดการลงสนามไปเป็นจำนวน 7 เกม
เขาจึงเป็นตัวสำรองที่ไม่ถูกเรียกใช้งานในเกมที่พบกับ “ลิเวอร์พูล” ทั้งสองนัด
ก่อนหน้านั้น เขาลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มทุกเกม ซึ่งรวมถึงเกมที่พบกับ “เปแอสเช” และ “แมนฯ ยูไนเต็ด” ด้วย
ย้อนเวลาไปน้อยกว่านั้น “โคนาเต้” กลับคืนสู่ตัวจริงของทีม และเล่น 90 นาทีเต็มในเกมที่พบกับ “แวร์เดอร์ เบรเมน” ในเดือนเมษายน ซึ่งนั่นเป็นเกม 90 นาทีแรกของเขานับตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บ
a
เขาเป็นพวกกระดูกยุงหรือเปล่า?
เขาน่าจะไม่ได้จัดอยู่ในประเภทนั้น มันมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่าง “ได้รับบาดเจ็บ” และ “บาดเจ็บง่าย” ซึ่งแบบหลังเป็นสิ่งที่ “โจเอล มาติป” เป็น
“โคนาเต้” มีการบาดเจ็บ 2 ครั้ง ในสองฤดูกาลล่าสุด ซึ่งครั้งแรกเป็นการบาดเจ็บอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นเกือบทั้งฤดูกาล ในขณะที่ผู้เล่นอย่าง “มาติป” มีการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ อย่างต่อเนื่องครั้งแล้วครั้งเล่า
การบาดเจ็บนั้นเกิดขึ้นได้ คงจะไม่มีสโมสรไหนไม่อยากได้ตัว “เวอร์จิล ฟานไดจ์ค” เพียงเพราะเขาได้รับบาดเจ็บในฤดูกาลนี้
a
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเซ็นเตอร์คนอื่นๆ?
บางที เราอาจะได้เห็นตัวเลือกในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค 4 คน ในฤดูกาลหน้า “โคนาเต้, ฟานไดจ์ค, โกเมซ และมาติป”
เราต้องไม่ลืมว่า “ฟานไดจ์ค, โกเมซ และมาติป” กำลังกลับมาจากการบาดเจ็บที่ยาวนาน และคงจะไม่ได้กลับมาลงเล่นทุกๆ เกม อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในรายของ “โกเมซ”
มันน่าจะเป็นฤดูกาลที่ “โกเมซ” และ “ฟานไดจ์ค” คนใดคนหนึ่งหรือทั้งคู่ ขาดๆ หายๆ ไปบ้าง และจะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ หาก “โจเอล มาติป” ตัดสินใจย้ายทีมออกไป หากได้รับข้อเสนอที่ดีเข้ามา ถ้าไม่ เขาก็น่าจะต้องเป็นตัวสำรองในตำแหน่งนี้เสียมากกว่า
ส่วน “แน็ท ฟิลลิปส์ ” แม้เขาจะทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ในทางปฏิบัติแล้ว เขาคงไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาว
คุณอาจสนใจ :
ข้อมูลนักเตะลิเวอร์พูล
ตำนานสนามแอนฟิลด์
ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ทำเนียบแชมป์
ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล
a
Our References :
a
2,626 total views, 1 views today