ตำนานลิเวอร์พูล

ตำนานลิเวอร์พูล – สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ถูกก่อตั้งหลังจากความขัดแย้งระหว่างคณะกรรมการของสโมสร “เอฟเวอร์ตัน” และ “จอห์น โฮลดิ้ง” ผู้เป็นประธานสโมสรและเจ้าของที่ดินที่แอนฟิลด์ หลังจากใช้สนามเป็นเวลา 8 ปี “เอฟเวอร์ตัน” ได้ย้ายไปที่ “กูดิสัน พาร์ค” ในปี 1892 และเป็นเวลาที่ “โฮลดิ้ง” ก่อตั้งสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล เพื่อลงเล่นที่สนามแอนฟิลด์




ตำนานลิเวอร์พูล

หลังจากนั้น การเดินทางอันเป็นตำนานอันแสนยิ่งใหญ่ของสโมสรลิเวอร์พูลก็ได้เริ่มต้นขึ้น…

1892

วันที่ 3 มิถุนายน – สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ถูกก่อตั้งขึ้น

ตำนานลิเวอร์พูล

ในวันที่ 15 มีนาคม 1892 “จอห์น โฮลดิ้ง” ได้แยกตัวออกจากบอร์ดของ “เอฟเวอร์ตัน” เพื่อตั้งสโมสรใหม่ นั่นก็คือ “สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล” ซึ่งได้รับการยอมรับจากสภาหอการค้าในวันที่ 3 มิถุนายน จึงถือเป็นวันเกิดสโมสรของพวกเราอย่างเป็นทางการ




วันที่ 3 กันยายน

“ไฮเออร์ วอลตัน” คือคู่แข่งทีมแรกที่ “ลิเวอร์พูล” ลงเตะแมทช์อย่างเป็นทางการ ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของทีมเรา 8-0 !!!

1893

วันที่ 2 กันยายน

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” ลงเตะในฟุตบอลลีกเป็นเกมแรก โดยพบกับ “มิดเดิลสโบรช์ ไอโรโนโพลิส”

1894

วันที่ 28 เมษายน

“ลิเวอร์พูล” เลื่อนชั้นขึ้นสู่ “ดิวิชั่น 1” ได้สำเร็จ ทั้งๆ ที่เพิ่งได้เล่นในฟุตบอลลีกเพียงปีเดียว

1896

วันที่ 18 กุมภาพันธ์

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” ที่กำลังไล่ล่าการเลื่อนชั้น ทำสถิติฟุตบอลลีกด้วยการถล่ม “ร็อตเธอร์แฮม” ไปถึง 10-1 ที่สนามแอนฟิลด์

วันที่ 17 สิงหาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“ทอม วัตสัน” ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีม “ลิเวอร์พูล” นายใหญ่ ซึ่งเป็นชาวเมืองนิวคาสเซิ่ลโดยกำเนิด ได้พา “ซันเดอร์แลนด์” จากช่วงเวลาอันยากลำบาก สู่แชมป์ลีก 3 สมัย ก่อนที่ประธานสโมสรลิเวอร์พูล “จอห์น แมคเคนน่า” จะยื่นข้อเสนอทางการเงินที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้

1901

วันที่ 29 เมษายน – “ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์เป็นครั้งแรก

ตำนานลิเวอร์พูล

เพียง 8 ปี หลังจากเข้าร่วมฟุตบอลลีก สโมสรฟุตบอล “ลิเวอร์พูล” ได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดของ “เกมกีฬาแห่งอังกฤษ” ด้วยตำแหน่งแชมป์ ซึ่งเป็นการปูทางให้กับรุ่นหลังๆ ณ ถิ่นแอนฟิลด์

1906

วันที่ 14 เมษายน

ถ้วยแชมป์ดิวิชั่น 1 กลับสู่ถิ่นแอนฟิลด์อีกครั้ง หลังจาก “ลิเวอร์พูล” เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาจากดิวิชั่น 2 ในฐานะแชมป์

1906

วันที่ 25 เมษายน

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” เข้าชิงในรายการ เอฟเอคัพ เป็นครั้งแรก แต่พ่ายแพ้ให้กับ “เบิร์นลี่ย์” อย่างน่าเสียดาย

1922

วันที่ 15 เมษายน

การฟาดแข้งที่สนามโรเกอร์ พาร์ค ของ “ซันเดอร์แลนด์ ” ดูไม่ค่อยเป็นลางดีสักเท่าไหร่ สำหรับการลุ้นแชมป์ลีก แต่ “ลิเวอร์พูล” ก็สามารถกลับมาจากการตามหลังถึง 3-0 จนในที่สุดคว้าถ้วยแชมป์กลับแอนฟิลด์ได้สำเร็จ แม้ว่าจะแพ้ถึง 2 ใน 3 เกมสุดท้าย “ลิเวอร์พูล” ก็ยังจบฤดูกาล 1921-22 ด้วยคะแนนทิ้งห่างอันดับสองอย่าง “สเปอร์ ” ถึง 6 แต้ม เลยทีเดียว

1923

วันที่ 21 เมษายน

ตำนานลิเวอร์พูล

แม้ว่าผู้จัดการทีม “เดวิด แอชเวิร์ธ” จะตัดสินกลับไปคุมทีมเก่า “โอลแดม แอธเลติก” ในกลางฤดูกาล “ลิเวอร์พูล” ยังสามารถป้องกันแชมป์ได้ โดยมี 6 คะแนน เหนือ “ซันเดอร์แลนด์ ” ส่วน “โอลแดม” อยู่ท้ายตารางของลีกในเวลาที่ “แอชเวิร์ธ” กลับไปคุมทีม และแน่นอนว่าเขาถูกไล่ออก

1928

วันที่ 28 สิงหาคม – อัฒจรรย์ “สปิออน ค็อป” เริ่มมีหลังคา

ตำนานลิเวอร์พูล

“สปิออน ค็อป” มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ในฐานะอัฒจรรย์ยืนที่ดังกึกก้องที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ แต่หลังจากมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ มันได้ขยายตัวจนมีขนาด 425 x 131 ฟุต ซึ่งเป็นภาพอันน่าเกรงขามสำหรับนักฟุตบอลทีมเยือน ที่มีผู้ชมยืนเชียร์ถึง 30,000

การต่อเติมที่สำคัญที่สุดก็คือ การติดตั้งหลังคาคานเหล็ก ซึ่งได้ทำหน้าที่เหมือนเครื่องขยายเสียงของกองเชียร์ที่บ้าคลั่งจนทำให้รูสึกเหมือนแก้วหูจะระเบิดเลยทีเดียว

1938

วันที่ 16 กุมภาพันธ์

ตำนานลิเวอร์พูล

“แจ็ค บัลเมอร์ ” ทำประตูที่นับว่าเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์อันยาวนานและยิ่งใหญ่ของสโมสรฟุตบอล “ลิเวอร์พูล” ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 10 วินาที เท่านั้น ใน “เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้” ที่ “กูดิสัน พาร์ค” ต่อหน้าแฟนบอล 33,465 คน

1946

วันที่ 12 กันยายน

ตำนานลิเวอร์พูล

ค่าตัวในการย้ายทีม 13,000 ปอนด์ อาจจะดูไม่มากนักสำหรับสมัยนี้ แต่นั่นเป็นจำนวนเงินที่ประธานสโมสร “บิลลี่ แม็คคอเนล” และผู้จัดการทีม “จอร์จ เคย์ ” ตกลงจ่ายให้แก่ “นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด” เพื่อคว้าศูนย์หน้า “อัลเบิร์ต สตับบินส์ ” ซึ่งกลายเป็นสถิติสูงที่สุดในเวลานั้น โดย “สตับบินส์ ” ก็ตอบแทนทีม “หงส์แดง” ด้วยการซัดไป 83 ประตู จากการลงเล่น 178 เกม

1946

วันที่ 23 พฤศจิกายน

ตำนานลิเวอร์พูล

“แจ็ค บัลเมอร์ ” สามารถทำ “แฮททริค” ในการลงเล่น 3 นัดติดต่อกัน โดยเป็นการพบกับ “พอร์ทสมัธ” “ดาร์บี้ เคาน์ตี้” และ “อาร์เซน่อล” ซึ่งสถิติดังกล่าวยังไม่เคยมีนักเตะลิเวอร์พูลคนใดทำได้อีกเลย

1947

วันที่ 14 มิถุนายน – “ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์หลังสงคราม

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” จบฤดูกาลโดยเฉือนคู่รักคู่แค้นอย่าง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เพียง 1 แต้ม คว้าแชมป์ลีกครั้งแรกหลังสงครามโลก

1950

วันที่ 29 เมษายน

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” ปราชัยต่อ “อาร์เซน่อล” ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพครั้งแรกของพวกเรา ที่สนามเวมบลีย์

1952

วันที่ 2 กุมภาพันธ์

ตำนานลิเวอร์พูล

“สนามแอนฟิลด์ ” ได้ต้อนรับแฟนบอลถึง 61,905 คน ในฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบ 4 ในการพบกับ “วูล์ฟส์ ” ซึ่งได้กลายเป็นสถิติสูงสุดจวบจนกระทั่งทุกวันนี้

1954

วันที่ 24 เมษายน

50 ฤดูกาลติดต่อกันในลีกสูงสุดเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด ความพ่ายแพ้ 1-0 ในบ้านต่อ “คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้” ซึ่ง “บิลลี่ ลิดเดล” ยิงจุดโทษพลาด ส่งผลให้ทีมของ “ดอน เวลช์ ” ตกชั้น

1954

วันที่ 11 ธันวาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

ในตอนบ่ายของเดือนธันวาคม อันหนาวเหน็บถึงขั้วกระดูก “ลิเวอร์พูล” ทำสถิติพ่ายแพ้สูงสุดถึง 9-1 ต่อ “เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้” ที่สนามเซนต์ แอนดรูวส์

1959

วันที่ 15 มกราคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” พบกับความอัปยศในการพ่ายแพ้ต่อทีมนอกลีก ส่งผลให้พวกเขาร่วงตกรอบ เอฟเอคัพ ด้วยน้ำมือของ “วอร์เชสเตอร์ “

1959

วันที่ 1 ธันวาคม – “แชงคลีย์ ” เซ็นสัญญาสู่ถิ่นแอนฟิลด์

ตำนานลิเวอร์พูล

วันที่จะถูกฝังไว้ในบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ของถิ่นแอนฟิลด์ไปตลอดกาล เมื่อสโมสรฟุตบอล “ลิเวอร์พูล” ประกาศให้ “บิล แชงคลีย์ ” เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของ “ฟิล เทย์เลอร์ ” ในฐานะผู้จัดการทีม ซึ่งเก้าอี้กำลังร้อนระอุในเวลานั้น

ในเวลาดังกล่าว ไม่มีใครรู้เลยว่าสโมสร “หงส์แดง” กำลังจะเข้าสู่ยุคอันน่าตื่นเต้นที่สุด ความเป็นทีมดาดๆ ในดิวิชั่น 2 กำลังจะกลายเป็นอดีต เมื่อ “แชงคลีย์ ” ตั้งเป้าที่เปลี่ยนแปลงโชคชะตาของสโมสร และ “ลิเวอร์พูล” จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป

1961

วันที่ 2 เมษายน

ตำนานลิเวอร์พูล

“เอียน เซนต์จอห์น” เป็นหนึ่งในสองการเซ็นสัญญานักเตะสก็อตที่ยอดเยี่ยมของ “บิล แชงคลีย์ ” ในปี 1961 พร้อมๆ กับเซ็นเตอร์แบ็คอย่าง “รอน ยีตส์ “

ตำนานลิเวอร์พูล

สโมสรตกลงจ่ายให้ “มาเธอร์เวลล์ ” เป็นจำนวนเงินซึ่งเป็นสถิติถึง 37,000 ปอนด์ เพื่อนักเตะผู้ซึ่งรู้จักกันในนาม “นักบุญ” ซึ่งเขาก็ตอนแทนสโมสรอย่างคุ้มค่าทุกเพนนี จากประตูและแอสซิสต์ที่เขาทำได้ในทศวรรษต่อมา

1962

วันที่ 21 เมษายน

ตำนานลิเวอร์พูล

เมื่อ “บิล แชงคลีย์ ” ซื้อตัว “รอน ยีตส์ ” ในเดือนกรกฎาคม 1961 เขากล่าวด้วยความเชื่อมั่นว่า เซ็นเตอร์แบ็คผู้นี้จะพา “ลิเวอร์พูล” กลับสู่ลีกสูงสุดของอังกฤษ ซึ่งภายใน 12 เดือนหลังจากนั้น ผู้จัดการทีมระดับตำนานผู้นี้ก็พิสูจน์ว่าเขาพูดถูกต้อง

การเลื่อนชั้นได้รับการยืนยัน ทั้งๆ ที่ยังเหลือเกมให้เล่นอีกถึง 5 นัด ด้วยการเอาชนะ “เซาแฮมป์ตัน” ไป 2-0 เป็นเวลาถึง 8 ปี หลังจากที่ “ดอน เวลช์ ” คุมทีมในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ในที่สุด “ลิเวอร์พูล” ก็กลับมาสู่ที่ที่ควรจะอยู่อีกครั้ง

1964

วันที่ 18 เมษายน

ตำนานลิเวอร์พูล

หลังจากฤดูกาลแห่งการสร้างทีม จากการเลื่อนชั้นขึ้นมา “บิล แชงคลีย์ ” ก็ทำการพลิกฟื้นครั้งยิ่งใหญ่ในโชคชะตาของสโมสรได้สำเร็จ โดยการนำแชมป์ลีกกลับสู่แอนฟิลด์ได้เป็นสมัยที่ 6

ซึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญคือชัยชนะ 5-0 เหนือ “อาร์เซน่อล” ในวันที่ 18 เมษายน 1964 ในวันนั้นประตูหมุนต้องถูกล็อกตั้งแต่ 1 ชั่วโมงก่อนเกมจะเริ่ม เนื่องจากสนามเต็มเป็นที่เรียบร้อย

1964

วันที่ 15 สิงหาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

ถ้วยแชมป์ใบแรกในฤดูกาลแห่งประวัติศาสตร์ก็มาถึง เมื่อ “ลิเวอร์พูล” และ “เวสต์แฮม” เสมอกันไป 2-2 ในฟุตบอลรายการแชริตี้ชิลด์

1964

วันที่ 17 สิงหาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

ต้อนรับสู่ยุโรป!!! “ลิเวอร์พูล” พบกับคู่ต่อสู้จากไอซ์แลนด์ “เรคยาวิก” ในฟุตบอลสโมสรยุโรปครั้งแรกของพวกเขา ซึ่ง “ลิเวอร์พูล” ก็เริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่ง เมื่อเอาชนะนอกบ้านไปก่อนถึง 5 ลูก และชัยชนะ 6-1 ที่แอนฟิลด์ในเลกที่สองก็ทำให้ผลประตูรวมเท่ากับ 11-1 เลยทีเดียว

1964

วันที่ 25 พฤศจิกายน – “ลิเวอร์พูล” สวมชุดสีแดงล้วนเป็นครั้งแรก

ตำนานลิเวอร์พูล

ในเดือนพฤศจิกายน 1964 “บิล แชงคลีย์ ” มีไอเดียที่จะส่งลูกทีมของเขาลงสนามด้วยชุดแข่งสีแดงล้วน ซึ่งแรกทีเดียวถุงเท้ายังเป็นสีขาว แต่ “แชงคลีย์ ” คิดว่า ทีมของเขาควรจะดูดุดันมากกว่านั้น ซึ่งเขาก็คิดถูกเช่นเคย

1965

วันที่ 1 พฤษภาคม – “ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์เอฟเอคัพ!!!

ตำนานลิเวอร์พูล

เป็นเวลาถึง 73 ปี ที่ถ้วยเอฟเอคัพยังคงไม่มีการจารึกชื่อของสโมสรฟุตบอล “ลิเวอร์พูล” ซึ่งสถิติดังกล่าวได้จบลงในบ่ายอันลืมไม่ลงของวันที่ 1 พฤษภาคม 1965

เกมใน 90 นาทีจบลงแบบไม่มีประตูเกิดขึ้น ซึ่งนำไปสู่การต่อเวลาพิเศษในรอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1947 โดยหลังจากนั้น ประตูของ “โรเจอร์ ฮันท์ ” และ “เอียน เซนต์จอห์น” ช่วยให้ “ลิเวอร์พูล” คว้าชัยชนะ 2-1 เหนือ “ลีดส์ ยูไนเต็ด” ของ “ดอน เรวี่” ในท้ายที่สุด

1965

วันที่ 4 พฤษภาคม – บรรยากาศอันบ้าคลั่งในแอนฟิลด์ขย่มขวัญนักเตะอินเตอร์

ตำนานลิเวอร์พูล

เพียงไม่กี่วันหลังการคว้าแชมป์เอฟเอคัพสมัยแรกของ “ลิเวอร์พูล” ที่สนามเวมบลีย์ ยักใหญ่ของยุโรปอย่าง “อินเตอร์ มิลาน” ก็ได้มาเยือนแอนฟิลด์ในการลงเตะยูโรเปี้ยนคัพ รอบรองชนะเลิศนัดแรก ซึ่ง “บิล แชงคลีย์ ” ได้ส่งฮีโร่ที่ได้รับบาดเจ็บอย่าง “เจอร์รี่ เบิร์น” และ “กอร์ดอน ไมล์น” เดินแห่ถ้วยแชมป์เอฟเอคัพไปรอบสนามก่อนการแข่งขัน ซึ่งจุดไฟให้บรรดาแฟนบอลเกิดอาการบ้าคลั่ง บรรยากาศดังกล่าวได้ช่วยให้เจ้าบ้านเอาชนะไปได้ 3-1 อย่างไรก็ตาม “ลิเวอร์พูล” ก็ยังไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ เนื่องจากความพ่ายแพ้ในนัดที่สอง

1965

วันที่ 14 สิงหาคม

“ลิเวอร์พูล” ครองแชมป์ร่วมในรายการ “แชริตี้ชิลด์ ” เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากเสมอกับ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ไป 2-2

ตำนานลิเวอร์พูล

1966

วันที่ 30 เมษายน

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้อีกครั้ง จากการเอาชนะ “เชลซี” 2-1 ที่สนามแอนฟิลด์ สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ มีผู้เล่นเพียง 15 คนเท่านั้นที่ถูกใช้งานตลอดรายการนี้ โดย “เจอร์รี่ เบิร์น” “เอียน คัลแกน” “ทอมมี่ ลอว์เรนซ์ ” “ทอมมี่ สมิธ” และ “รอน ยีตส์ ” ได้ลงเล่นทุกนัดตลอดฤดูกาล!!!

1966

วันที่ 5 พฤษภาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” พบกับความปราชัยในนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลสโมสรยุโรปครั้งแรกของพวกเขา โดยแพ้ให้กับ “โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ” 2-1 ในฟุตบอลคัพวินเนอร์สคัพนัดชิงชนะเลิศ ที่แฮมป์เดนปาร์คในกลาสโกว์

1966

วันที่ 13 สิงหาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

หลังจากทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก “โรเจอร์ ฮันท์ ” ระเบิดประตูจากระยะ 25 หลา หลังจากเริ่มเกมเพียง 9 นาที ช่วยให้ “ลิเวอร์พูล” กุมชัยชนะ 1-0 เหนือ “เอฟเวอร์ตัน” และคว้าแชมป์แชริตี้ชิลด์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร

1971

วันที่ 9 พฤษภาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

ศึกเอฟเอคัพนัดชิงชนะเลิศ จบลงด้วยความพ่ายแพ้ต่อทีมดับเบิลแชมป์อย่าง “อาร์เซน่อล” แต่วันดังกล่าวยังคงเป็นสำคัญวันหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร “ลิเวอร์พูล”

หลังจากเดินทางกลับสู่ลิเวอร์พูล “บิล แชงคลีย์ ” และลูกทีม ถูกต้อนรับอย่างอบอุ่นโดยแฟนบอล “ลิเวอร์พูล” ตลอดสองข้างทางเป็นจำนวนหลายพันคนในฐานะ “ฮีโร่” ของพวกเขา

1973

วันที่ 28 เมษายน

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” ได้รับชัยชนะจากการต่อสู้เพื่อแย่งตำแหน่งแชมป์จากอีกสองทีมอย่าง “ลีดส์ ยูไนเต็ด” และ “อาร์เซน่อล”

ชัยชนะ 2-0 เหนือ “ลีดส์” ในเดือนเมษายน รวมกับผลเสมอของทีมปืนใหญ่ที่ “เซาแธมป์ตัน” ก็เพียงพอที่จะหยิบยื่นตำแหน่งแชมป์ให้แก่ลูกทีมของ “แชงคลีย์ ” ซึ่งได้รับการปรบมือแสดงความยินดีจากทีมคู่ต่อสู้ในสนาม

1973

วันที่ 23 พฤษภาคม – “ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ยุโรปเป็นครั้งแรก

ตำนานลิเวอร์พูล

“บิล แชงคลีย์ ” “โชคดีครั้งที่สาม” เมื่อในที่สุดเขาก็สามารถคว้าถ้วยแชมป์สโมสรยุโรปใบแรกของให้กับ “ลิเวอร์พูล” ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าคัพ

“ลิเวอร์พูล” เอาชนะ “โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค” ในการเล่นแบบเหย้า-เยือน โดย “ลิเวอร์พูล” ชนะไปก่อนในนัดแรกที่แอนฟิลด์ 3-0 ก่อนที่จะบุกไปแพ้ที่เยอรมัน 2-0

1974

วันที่ 4 พฤษภาคม – เอฟเอคัพ กลับสู่ถิ่นแอนฟิลด์อีกครั้ง

ตำนานลิเวอร์พูล

“เควิน คีแกน” โชว์ฟอร์มอันสุดยอดในการพา “ลิเวอร์พูล” ไปสู่ตำแหน่งแชมป์เอฟเอคัพ สมัยที่สองของสโมสร ด้วยชัยชนะเหนือ “นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด” ที่สนามเวมบลีย์

ศูนย์หน้าร่างเล็กซัดสองประตูอย่างสวยงามในครึ่งเวลาหลัง พา “ลิเวอร์พูล” คว้าชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จ 3-0

1974

วันที่ 12 กรกฎาคม – “บิล แชงคลีย์ ” ลาออก!!!

ตำนานลิเวอร์พูล

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา…ในการแถลงข่าวอันแน่นขนัดที่สนามแอนฟิลด์ “บิล แชงคลีย์ ” ยืนยันว่า เขาตัดสินที่จะลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของ “ลิเวอร์พูล”

1974

วันที่ 26 กรกฎาคม – “เพลสลี่ย์ ” เข้ารับตำแหน่งนายใหญ่แห่ง “ลิเวอร์พูล”

ตำนานลิเวอร์พูล

“บ๊อบ เพลสลี่ย์ ” เข้ารับงานที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ในการสืบทอดตำแหน่งผู้จัดทีมสโมสรลิเวอร์พูลต่อจาก “บิล แชงคลีย์ ” สำหรับคนฟุตบอลผู้เงียบขรึม เห็นได้ชัดว่า “เพลสลี่ย์ ” ไม่ค่อยเต็มใจที่จะสืบทอดบังลังค์แห่งแอนฟิลด์เท่าใดนัก

1974

วันที่ 10 สิงหาคม – ความสำเร็จก่อนอำลาของ “แชงคลีย์ ” ในถิ่นแอนฟิลด์

ตำนานลิเวอร์พูล

เตะลงสู่สนามเวมบลีย์เป็นครั้งสุดท้ายในรายการแชริตี้ชิลด์ ซึ่ง “ลิเวอร์พูล” เอาชนะ “ลีดส์ ยูไนเต็ด” ไปได้จากการดวลจุดโทษ หลังจากเสมอกันในเวลา 1-1

1974

วันที่ 17 กันยายน

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” บุกไปชนะทีมจากนอร์เวย์ “สตรอมก็อดเซต” ถึง 11-0 อันเป็นสถิติใหม่ ในรอบแรกของรายการคัพวินเนอร์สคัพ

1976

วันที่ 4 พฤษภาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” ลงเล่นฟุตบอลลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาล โดย “ลิเวอร์พูล” ต้องการเพียง 1 แต้มจาก “วูล์ฟส์ ” ก็เพียงพอที่จะคว้าแชมป์สมัยที่ 9 จากผลต่างประตูได้เสีย

อย่างไรก็ตาม ชัยชนะ 3-1 จากประตูของ “เควิน คีแกน” “เรย์ เคนเนดี้” และ “จอห์น โตแช็ค” ทำให้ความฝันของทีม “ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส” เป็นอันดับลงโดยปริยาย

1976

วันที่ 9 พฤษภาคม – แชมป์ยูฟ่าคัพสมัยที่สอง

ตำนานลิเวอร์พูล

ชัยชนะอันสุดยากลำบาก 4-3 เหนือ “เอฟซี บรูจส์ ” ได้ทำให้ “ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ยูฟ่าคัพเป็นสมัยที่ 2 เดินตามรอยทีมของ “บิล แชงคลีย์ ” เมื่อสามปีก่อนหน้า

“ลิเวอร์พูล” โดนนำไปก่อน 2 ลูก เมื่อจบครึ่งเวลาแรก และสามารถยิงกลับมาเอาชนะไปได้ 3-2 ในนัดแรก และตามตีเสมอเป็น 1-1 จากประตูของ “เควิน คีแกน” ในนัดที่สอง

1976

วันที่ 14 สิงหาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” เฉือนเอาชนะ “เซาแธมป์ตัน” ไปได้ 1-0 หยิบแชมป์แชริตี้ชิลด์ได้สำเร็จ “จอห์น โตแช็ค” เป็นผู้ซัดประตูโทนของเกมในนาทีที่ 50 และนำอีกหนึ่งถ้วยแชมป์กลับถิ่นเมอร์ซี่ย์ไซด์

1977

วันที่ 16 มีนาคม – ซูเปอร์ซับดับ “แซงต์ เอเตียง”

ตำนานลิเวอร์พูล

หนึ่งในค่ำคืนมหัศจรรย์ในฟุตบอลยุโรปในแอนฟิลด์ “ลิเวอร์พูล” พลิกสถานการณ์จากที่แพ้นัดแรกจากน้ำมือของทีมที่แข็งแกร่งอย่าง “แซงต์ เอเตียง” 1-0 จนสามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ซึ่งต้องขอบคุณประตูอันสวยงามของ “เดวิด แฟร์คลัฟ”

1977

วันที่ 14 พฤษภาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 10 ซึ่งเป็นผลมากจากฟอร์มในบ้านอันร้อนแรง โดยสามารถเอาชนะได้ถึง 18 นัด จาก 21 นัด ในการเล่นที่แอนฟิลด์

มีเพียง “มิดเดิลสโบรช์ ” “เวสต์ บรอมวิช” และ “เวสต์แฮม” เท่านั้นที่หนีรอดจากความพ่ายแพ้ในรังเหย้าของทีมหงส์แดงได้

1977

วันที่ 21 พฤษภาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

หลังจากคว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จ “ลิเวอร์พูล” ต้องหัวใจสลายในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ ด้วยน้ำมือของ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ซึ่งความพ่ายแพ้นี้ทำให้ “ลิเวอร์พูล” หมดโอกาสในการคว้าสามแชมป์ ซึ่งพวกเขาไม่เคยทำได้มาก่อน

1977

วันที่ 25 พฤษภาคม – “ลิเวอร์พูล” พิชิตกรุงโรมคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ

ตำนานลิเวอร์พูล

ในค่ำคืนอันแสนสบาย ณ โอลิมปิก สเตเดี้ยม แห่งกรุงโรม “เอ็มลิน ฮิวจ์ ” ได้ชูถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฟุตบอลระดับสโมสร “ยูโรเปี้ยนคัพ”

“ลิเวอร์พูล” เอาชนะ “โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค” คว้าแชมป์ได้สำเร็จ โดย “เทอร์รี่ แมคเดอร์มอทท์ ” “ทอมมี่ สมิธ” และ “ฟิล นีล” เป็นผู้ทำประตูในชัยชนะ 3-1 กรุยทางสู่ยุคแห่งความยิ่งใหญ่ของสโมสรฟุตบอลอังกฤษในทวีปยุโรปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

1977

วันที่ 10 สิงหาคม – “เดลกลิช” ย้ายจาก “เซลติก” มาร่วมทีม “ลิเวอร์พูล”

ตำนานลิเวอร์พูลย

ตำนานอันยิ่งใหญ่ของ “เคนนี่ เดลกลิช” กับ “ลิเวอร์พูล” ได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อเขาย้ายจาก “เซลติก” มาสู่สโมสร “ลิเวอร์พูล” ทำให้แฟนบอลของ “เซลติก” ต้องพบกับความอกหักอย่างชอกช้ำจากการจากไปของเขา เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากการมาร่วมทีมของนักเตะสก๊อตผู้นี้ แต่ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาอันสำคัญอีกครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์สโมสร “ลิเวอร์พูล”

1977

วันที่ 13 สิงหาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

ในเกมที่เสมอกันแบบไม่มีประตู “อันสุดเร้าใจ” “ลิเวอร์พูล” ครองแชมป์แชริตี้ชิลด์ร่วมกับ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ซึ่งแง่มุมที่น่าสนใจที่สุดของเกมนี้คือฟอร์มการเล่นของ “เด็กใหม่” อย่าง “เคนนี่ เดลกลิช” ซึ่งทำได้อย่าง “สมบูรณ์แบบ”

1977

วันที่ 6 ธันวาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“เทอร์รี่ แมคเดอร์มอทท์ ” ทำแฮททริคได้อย่างงดงาม เมื่อ “ลิเวอร์พูล” ไล่ถล่ม “ฮัมบูร์ก” ของ “เควิน คีแกน” ไป 6-0 คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพ ณ สนามแอนฟิลด์ หลังจากเสมอกันไปแบบหืดจับ 1-1 ในเยอรมัน

1978

วันที่ 22 มีนาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

ลีกคัพนัดที่สองกลายเป็นความชอกช้ำของ “ลิเวอร์พูล” เมื่อพวกเขาปราชัยแก่ “น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ” ของ “ไบรอัน คลัฟ”

1978

วันที่ 10 พฤษภาคม – กระหึ่มเวมบลีย์ “ลิเวอร์พูล” เฉือน “บรูจส์ ” ซิวแชมป์ยุโรปอีกสมัย!!!

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” กลายเป็นทีมจากอังกฤษทีมแรกที่สามารถป้องกันแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพได้สำเร็จ โดยเฉือนเอาชนะทีมจากเบลเยี่ยม “เอฟซี บรูจส์ ” ในเกมแบบวันเวย์ที่สนามเวมบลีย์

ลูกทีมของ “บ๊อบ เพลสลี่ย์ ” ครองเกมตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เอาชนะไปได้เพียง 1-0 จากลูกยิงสุดสำคัญของราชาคนใหม่ของ “ลิเวอร์พูล” “เคนนี่ เดลกลิช”

1979

วันที่ 8 พฤษภาคม – ชัยชนะเหนือ “วิลล่า” การันตีแชมป์ลีก!!!

ตำนานลิเวอร์พูล

ทีมงาน “Boot Room” รวมตัวกันดื่มฉลองสำหรับแชมป์ลีกสมัยที่ 11 ที่พวกเขาพิชิตในรูปแบบของการทำลายสถิติ โดยเก็บได้ถึง 68 คะแนนอย่างสวยสดงดงาม ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุดของฟุตบอลลีกในระบบที่ทีมชนะได้ 2 คะแนน

บ่อยครั้งที่ทีมของ “บ๊อบ เพลสลี่ย์ ” แข็งแกร่งเกินจะต้านทาน ด้วยเกมบุกอันทรงประสิทธิภาพ ซึ่งทำไปได้ถึง 85 ประตู และเกมรับซึ่งได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่า “แบ็คโฟร์ ” อันโหดหินที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งเสียไปเพียง 16 ประตูเท่านั้นตลอดฤดูกาล

1979

วันที่ 11 สิงหาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“ทุกอย่างปกติ” ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อ “ลิเวอร์พูล” เอาชนะ “อาร์เซน่อล” 3-1 คว้าแชมป์แชริตี้ชิลด์ สองประตูจาก “เทอร์รี่ แม็คเดอร์มอทท์ ” และอีกหนึ่งประตูจาก “เคนนี่ เดลกลิช” ช่วยยัดเยียดความปราชัยให้แก่แชมป์เอฟเอคัพอย่าง “อาร์เซน่อล”

1980

วันที่ 3 พฤษภาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“เทอร์รี่ แม็คเดอร์มอทท์ ” กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ได้รับเลือกเป็น “ผู้เล่นยอดเยี่ยม” ของทั้ง “สมาคมนักฟุตบอลอาชีพ” และ “สมาคมนักข่าวฟุตบอล” ในฤดูกาลเดียวกัน ซึ่ง “ลิเวอร์พูล” ทำสถิติคว้าแชมป์ลีกเป็นสมัยที่ 12 ในนัดที่เอาชนะ “แอสตัน วิลล่า” ไป 4-1 ที่สนามแอนฟิลด์

1980

วันที่ 9 สิงหาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์แชริตี้ชิลด์เป็นสมัยที่ 5 ด้วยชัยชนะเหนือทีมจากดิวิชั่น 2 อย่าง “เวสต์แฮม” ซึ่งก่อนหน้านี้ทำให้วงการลูกหนังต้องตกตะลึง เมื่อสามารถพลิกล็อคเอาชนะทีมใหญ่อย่าง “อาร์เซน่อล” ได้ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพในเดือนพฤษภาคม

1981

วันที่ 1 เมษายน

ตำนานลิเวอร์พูล

“อลัน แฮนเซ่น” เป็นผู้ชนะอันน่าเหลือเชื่อ เมื่อในที่สุด “ลิเวอร์พูล” สามารถทำลายอาถรรพ์ในฟุตบอลลีกคัพของพวกเขาได้สำเร็จ คว้าแชมป์เป็นสมัยแรก

“ดาวเตะชาวสก็อต” ยิงประตูขึ้นนำ 2-1 ในนาทีที่ 25 และกลายเป็นประตูตัดสินเกมเหนือ “เวสต์แฮม ยูไนเต็ด” ในนัดเตะใหม่ หลังจาก “เคนนี่ เดลกลิช” ยิงประตูตามตีเสมอไปก่อนหน้าไม่นาน

1981

วันที่ 27 พฤษภาคม – “เคนเนดี้” ฮีโร่ในเกม “ลิเวอร์พูล” ดับ “ชุดขาว” คว้าแชมป์ยุโรปอีกสมัย

ตำนานลิเวอร์พูล

แบ็คซ้ายซึ่งมีพรสวรรค์ในการทำในสิ่งที่คาดเดาได้ยาก ได้สวมบทฮีโร่ในเกมที่ “ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพสมัยที่ 3 ในเวลาเพียง 5 ปี โดยได้รับชัยชนะเหนือ “รีด มาดริด” ณ กรุงปารีส

หลังจากผ่านไป 83 นาที ในรูปเกมที่แสนจะอึดอัด “อลัน เคนเนดี้” ได้ทิ้งตำแหน่งป้องกันของตนเอง พุ่งเข้ารับลูกทุ่มของ “เรย์ ” ก่อนที่จะหวดด้วยเท้าซ้ายอันทรงพลัง จากนั้นลูกบอลพุ่งเข้าเสียบเสาสองอย่างสวยงาม

1982

วันที่ 13 มีนาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” รับสองถ้วยจากการลงเตะเพียงนัดเดียว เมื่อสามารถเอาชนะ “ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ” ในช่วงต่อเวลาพิเศษคว้าแชมป์ลีกคัพ ณ สนามเวมบลีย์

“ลิเวอร์พูล” ซึ่งผ่าน “อิปสวิช” “บาร์นสลี่ย์ ” “เอกซ์เตอร์ ” “มิดเดิ้ลสโบรช์ ” และ “อาร์เซน่อล” ในรอบก่อนหน้า กลับมาจากการตามหลังในรอบชิงชนะเลิศจนคว้าชัยชนะ 3-1 และคว้ากลับบ้าน ทั้งถ้วยลีกคัพแบบเก่า และถ้วยใหม่ “มิลค์คัพ”

1982

วันที่ 15 พฤษภาคม – แชมป์ลีกสมัยที่ 13 สู่แอนฟิลด์อีกสมัย

ตำนานลิเวอร์พูล

การเปลี่ยนแปลงในช่วงกลางฤดูกาลทำให้ “ลิเวอร์พูล” มีผลงานอันโดดเด่นในครึ่งฤดูกาลหลัง จนสามารถคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 13 ได้สำเร็จ

ความสำเร็จดังกล่าวดูเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้ในช่่วงเปลี่ยนปี เนื่องจากทีมของ “บ๊อบ เพลสลี่ย์ ” ต้องเผชิญกับการเริ่มต้นอันน่าผิดหวัง ซึ่งร่วมถึงความพ่ายแพ้ต่อ “อิปสวิช” “วูล์ฟส์ ” และ “เซาแธมป์ตัน”

หลังจากนั้น “นายใหญ่แห่งลิเวอร์พูล” ได้ตัดสินใจอย่างกล้าหาญ โดยการแต่งตั้ง “แกรม ซูเนสส์ ” เป็นกัปตันทีมคนใหม่แทนที่กัปตันชุดแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพอย่าง “ฟิล ธอมป์สัน” ซึ่งการตัดสินใจนี้ได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าถูกต้อง

1982

วันที่ 21 สิงหาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“บ็อบ เพสลี่ย์ ” และทีมงานคว้าแชมป์แชริตี้ชิลด์ สมัยที่ 9 ได้สำเร็จ ณ สนามเวมบลีย์ โดยได้ประตูจาก “เอียน รัช” ในการจัดการฝัง “ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ “

1983

วันที่ 26 มีนาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” พลิกกลับมาชนะ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” 2-1 ต่อหน้าผู้ชม 100,000 คน ณ สนามเวมบลีย์ โดยมี “อลัน เคนเนดี้” และ “รอนนี่ วีแลน” เป็นผู้ทำประตู

และเพื่อเป็นการให้เกียรติต่อ “บ็อบ เพลสลี่ย์ ” ผู้เตรียมอำลาตำแหน่งในไม่ช้า กัปตัน “แกรม ซูเนสส์ ” จึงหลีกทางให้ “บุรุษผู้ยิ่งใหญ่” เป็นผู้ชูถ้วยเป็นคนแรก

1983

วันที่ 19 เมษายน

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 14 ส่งท้าย “บ๊อบ เพลสลี่ย์ ” อย่างงดงาม

“ลิเวอร์พูล” ป้องกันแชมป์ได้อีกสมัย เมื่อพวกเขาทำแต้มทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง “วัตฟอร์ด” ซึ่งเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาได้ถึง 11 คะแนน

ถ้วยใบสุดท้ายของ “เพลสลี่ย์ ” ซึ่งเตรียมอำลาตำแหน่งในช่วงฤดูร้อน แต่ “ลิเวอร์พูล” คว้ามันมาได้ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม อันเกิดจากฟอร์มอันร้อนแรงอย่างต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้าย โดยการชนะ 19 เกม และเสมอเพียง 4 เกม จากทั้งหมด 24 เกมด้วยกัน

1984

วันที่ 28 มีนาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

แชมป์ลีกคัพสมัยที่ 4 ติดต่อกันของ “ลิเวอร์พูล” และเป็น “เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้” ในรอบชิงชนะเลิศครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดย “ลิเวอร์พูล” เอาชนะ “เอฟเวอร์ตัน” ในเกมที่สองที่สนามเมนโร้ดของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากเสมอกันแบบไม่มีประตูที่สนามเวมบลีย์ ซึ่ง “แกรม ซูเนสส์ ” ทำประตูตัดสินเกมตั้งแต่นาทีที่ 21 คว้าแชมป์แรกให้กับ “โจ เฟแกน” ผู้จัดการทีมคนใหม่

1984

วันที่ 12 พฤษภาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“โจ เฟแกน” นำ “ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เขาเข้ารับตำแหน่ง โดยผลเสมอกับ “น็อตส์ เคาน์ตี้” และ “นอริช ซิตี้” ก็เพียงพอที่จะการันแชมป์ลีกสมัยที่ 15 ให้แก่ “ลิเวอร์พูล”

1984

วันที่ 30 พฤษภาคม – “เคนเนดี้” ฮีโร่แห่งกรุงโรม

ตำนานลิเวอร์พูล

“อลัน เคนเนดี้” กลายเป็นฮีโร่อันน่าเหลือเชื่อของ “ลิเวอร์พูล” อีกครั้งหนึ่ง เมื่อทีมของ “โจ เฟแกน” คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพสมัยที่ 4 ได้สำเร็จ เมื่อเฉือนชนะ “เอเอส โรม่า” ในการดวลลูกจุดโทษ หลังจากเสมอกันในเวลา 1-1

ยอดฟูลแบ็คของ “ลิเวอร์พูล” แบกความกดดันอันมหาศาล บรรจงซัดจุดโทษลูกตัดสินเกมเข้าไป โดย “ขาสปาเก็ตตี้” ของ “บรู๊ซ กล็อบเบลาร์ ” ช่วยสกัดลูกยิงของ “ฟรานเชสโก้ แกรซิอานี่” ไปชนคานไว้ได้

1985

วันที่ 29 พฤษภาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

โศกนาฏกรรม เมื่อ “ลิเวอร์พูล” พบ “ยูเวนตุส” ในยูโรเปี้ยนคัพรองชิงชนะเลิศ ณ เฮย์เซล สเตเดี้ยม ในกรุงบรัสเซลส์ โดยมีผู้เสียชีวิต 39 ราย ส่วนใหญ่เป็นแฟนบอลของยูเวนตุส และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน

เป็นวันหนึ่งแห่งการรำลึกถึงของสโมสร “ลิเวอร์พูล” “ยูเวนตุส” และวงการฟุตบอลทั่วโลก

1986

วันที่ 10 พฤษภาคม – ดับเบิ้ลแชมป์ของ “ลิเวอร์พูล” ภายใต้ “เคนนี่ เดลกลิช”

ตำนานลิเวอร์พูล

ภายใต้การคุมทีมของผู้เล่นผู้จัดการทีมอย่าง “เคนนี่ เดลกลิช” “ลิเวอร์พูล” เฉือนแชมป์เก่าอย่าง “เอฟเวอร์ตัน” คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 16 และเอฟเอคัพสมัยที่ 3 ได้สำเร็จ และเป็นดับเบิ้่ลแชมป์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรลิเวอร์พูลอีกด้วย

“ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ลีก ต้องขอบคุณประตูของ “คิง เคนนี่” ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในวันที่ 3 พฤษภาคม และจากนั้น “ลิเวอร์พูล” ยังสามารถเอาชนะคู่ปรับแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์อย่าง “เอฟเวอร์ตัน” ไป 3-1 ที่สนามเวมบลีย์ในอีก 7 วันถัดมา โดยมี “เอียน รัช” เป็นผู้ซัดประตูชัย

1986

วันที่ 16 สิงหาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

“เอียน รัช” ซัดประตูตีเสมอท้ายเกมสุดดราม่า ใน “เมอร์ซี่ย์ไซด์ แชริตี้ชิลด์ ” ที่สนามเวมบลีย์

1988

วันที่ 23 เมษายน

ตำนานลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูล” โฉมใหม่ของ “เคนนี่ เดลกลิช” คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 17 ด้วยฟุตบอลที่เน้นเกมบุกอันเร้าใจที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาที่สนามแอนฟิลด์ ซึ่งบางคนกล่าวว่าทีมที่นำโดย “ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ ” “จอห์น อัลดริดจ์ ” และ “จอห์น บาร์นส์ ” นี้เป็นชุดที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรเลยทีเดียว

1988

วันที่ 14 พฤษภาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

เป็นความเจ็บปวดของ “จอห์น อัลดริดจ์ ” เมื่อ “ลิเวอร์พูล” พ่ายแพ้ในเอฟเอคัพนัดชิงชนะเลิศให้แก่ “เครซี่แก๊ง” “วิมเบิลดัน” ลูกจุดโทษในครึ่งหลังของยอดศูนย์หน้าถูกปฏิเสธโดย “เดวิด บีแซนท์ ” ซึ่งนำไปสู่ชัยชนะช็อคโลกของพวกเขา 1-0

1988

วันที่ 20 สิงหาคม

ตำนานลิเวอร์พูล

เพียง 3 เดือนหลังจากที่ลูกจุดโทษของเขาถูกเซฟในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ “จอห์น อัลดริดจ์ ” พยายามดับฝันร้ายโดยการทำประตูที่สนามเวมบลีย์ ช่วยให้ “ลิเวอร์พูล” เอาชนะ “วิมเบิลดัน” คว้าแชมป์แชริตี้ชิลด์ได้สำเร็จ

1989

วันที่ 15 เมษายน

ตำนานลิเวอร์พูล

วันที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร แฟนบอล “ลิเวอร์พูล” กว่า 25,000 คนเดินทางไปยังสนามฮิลส์โบโร่ เพื่อชมเกมเอฟเอคัพรอบรองชนะเลิศกับ “น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ” แต่มีแฟนบอล 96 ชีวิต ที่ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย

1989

วันที่ 20 พฤษภาคม – “เอียน รัช” ซัดสองประตูพา “ลิเวอร์พูล” คว้าถ้วยเอฟเอคัพ

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล เอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศ เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ เอฟเวอร์ตัน 1989 เอียน รัช

“ลิเวอร์พูล” ชูถ้วยเอฟเอคัพเป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ของพวกเขา เป็นนัดชิงชนะเลิศ “เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้” ที่สะเทือนอารมณ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเตะกันหลังจากโศกนาฏกรรมที่ฮิลส์โบโร่เพียง 5 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่ง “ลิเวอร์พูล” เอาชนะ “เอฟเวอร์ตัน” ไปได้ 3-2 โดย “เอียน รัช” ทำไปคนเดียว 2 ประตู

1989

วันที่ 26 พฤษภาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล อาร์เซน่อล ไมเคิล โธมัส 1989

“ไมเคิล โธมัส” ทำให้ “เดอะค็อป” ทั่วโลกต้องหัวใจสลาย โดยการทำประตูสุดท้ายที่สนามแอนฟิลด์ ทำให้ “อาร์เซน่อล” เอาชนะ “ลิเวอร์พูล” ไป 2-0 และนำตำแหน่งแชมป์กลับไฮบิวรี่ ด้วยผลต่างประตูได้เสีย!!!

1989

วันที่ 12 สิงหาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล อาร์เซน่อล แชริตี้ชิลด์ 1989

“ลิเวอร์พูล” หยุดความห้าวของ “อาร์เซน่อล” เมื่อพวกเขาเอาชนะทีมแชมป์ลีกของ “จอร์จ เกรแฮม” 1-0 ที่สนามเวมบลีย์ คว้าแชมป์แชริตี้ชิลด์ได้สำเร็จ

1990

วันที่ 28 เมษายน – “ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 18

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล 1990 คว้าแชมป์ลีก สมัยที่ 18

“ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ได้สำเร็จ ทั้งๆ ที่ยังเหลือเกมให้เล่นอีก 2 นัด เมื่อพวกเขาพลิกกลับมาเอาชนะ “ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส” ไป 2-1 จากประตูของ “เอียน รัช” และ “จอห์น บาร์นส์ “

1990

วันที่ 18 สิงหาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1990 แชริตี้ชิลด์

“ลิเวอร์พูล” ตามตีเสมอ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ครองแชมป์แชริตี้ชิลด์ร่วมกัน ณ สนามเวมบลีย์

1991

วันที่ 21 กุมภาพันธ์

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล เคนนี่ เดลกลิช ลาออก ลิเวอร์พูล ผู้จัดการทีม 1991

“เคนนี่ เดลกลิช” ก้าวลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของ “ลิเวอร์พูล” หลังจากทำหน้าที่เป็นเวลา 6 ปี “กุนซือชาวสก็อต” นำทัพลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีก 3 สมัย เอฟเอคัพ 2 สมัย ลีกคัพ 1 สมัย ซูเปอร์คัพ 1 สมัย และแชริตี้ชิลด์อีก 4 สมัย หลังจากสืบทอดตำแหน่งต่อจาก “โจ เฟแกน”

1992

วันที่ 9 พฤษภาคม – “ไมเคิล โธมัส” และ “เอียน รัช” ช่วยกันกระทุ้งประตูพา “ลิเวอร์พูล” ซิวแชมป์เอฟเอคัพสมัยที่ 5

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล แชมป์ เอฟเอคัพ 1992 สมัยที่ 5

“เอียน รัช” และ “ไมเคิล โธมัส” ทำประตูช่วยให้ “ลิเวอร์พูล” เอาชนะทีมจากดิวิชั่น 2 อย่าง “ซันเดอร์แลนด์ ” คว้าแชมป์เอฟเอคัพได้สำเร็จ ณ สนามเวมบลีย์

โดยประตูของ “เอียน รัช” ทำให้เขากลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ โดยที่ยอดดาวยิงชาวเวลส์ทำได้ถึง 5 ประตูจาก 3 เกมเลยทีเดียว

1992

วันที่ 18 ตุลาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล เอียน รัช โรเจอร์ ฮันท์ ทำประตูมากที่สุดตลอดกาล

“เอียน รัช” ได้จารึกตัวเองลงในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร “ลิเวอร์พูล” เมื่อเขาแซงหน้า “โรเจอร์ ฮันท์ ” กลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสร ด้วยประตูที่เขายิงใส่ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด

1994

วันที่ 30 เมษายน – ฉากสุดท้ายของ “เดอะ ค็อป”

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล

เป็นวันสุดสะเทือนใจอีกวันหนึ่งของสโมสร “ลิเวอร์พูล” เมื่อแฟนบอลจำนวน 44,339 ในสนามแอนฟิลด์ เข้ามาร่วมอำลาอัฒจรรย์ “เดอะ ค็อป” เป็นครั้งสุดท้าย

“นอริช ซิตี้” บุกมาชนะไปได้ 1-0 ในวันดังกล่าว แต่ในความเป็นจริง แฟนบอลแทบไม่ได้ให้ความสนใจเหตุการณ์ในสนามหญ้าด้วยซ้ำ

1995

วันที่ 2 เมษายน

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล สตีฟ แม็คมานามาน ลิเวอร์พูล

“สตีฟ แม็คมานามาน” เหมาสองประตูพา “ลิเวอร์พูล” สร้างสถิติคว้าแชมป์ลีกคัพเป็นสมัยที่ 5 โดยเฉือนเอาชนะ “โบลตัน วันเดอเรอร์ส 2-1 ที่สนามเวมบลีย์

1996

วันที่ 17 พฤษภาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล แชมป์เอฟเอยูธคัพ ครั้งแรก 1996

“ไมเคิล โอเว่น” และ “เจมี่ คาร์ราเกอร์ ” ฉายแววความยิ่งใหญ่ของพวกเขาในฐานะส่วนหนึ่งของ “ลิเวอร์พูล” ชุดคว้าแชมป์เอฟเอยูธคัพครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยเอาชนะ “เวสต์แฮม ยูไนเต็ด” ไปได้

1997

วันที่ 6 พฤษภาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล ไมเคิล โอเว่น อายุน้อยสุด 1997

“ไมเคิล โอเว่น” กลายเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาของสโมสร โดยยิงได้ในเกมที่พบกับ “วิมเบิลดัน” ที่เซลเฮิสต์พาร์ค ด้วยอายุเพียง 17 ปี กับอีก 143 วัน

1998

วันที่ 16 กรกฎาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล เชราร์ อุลลิเย่ร์ รอย อีแวนส์ ลิเวอร์พูล 1998

“เชราร์ อุลลิเย่ร์ ” เข้ามาร่วมงานในฐานะ “ผู้จัดการทีมร่วม” ซึ่งแรกทีเดียวเคียงคู่กับ “รอย อีแวนส์ ” โดยแคมเปญนี้มีอายุไม่ถึง 4 เดือน เมื่อ “อีแวนส์ ” ตัดสินใจก้าวลงจากตำแหน่ง ยุติความสัมพันธ์ที่ยาวนานถึง 35 ปี กับ “ลิเวอร์พูล”

2001

วันที่ 25 กุมภาพันธ์

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล เบอร์มิ่งแฮม ลีกคัพ 2001

“ลิเวอร์พูล” สามารถเอาตัวรอดในช่วงต่อเวลาพิเศษเอาชนะ “เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้” ในการดวลลูกจุดโทษ ในลีกคัพรอบชิงชนะเลิศสุดมหากาพย์ และคว้าถ้วยแชมป์ใบแรกนับตั้งแต่ปี 1995

2001

วันที่ 12 พฤษภาคม – “ไมเคิล โอเว่น” ซัดสองประตูฝัง “อาร์เซน่อล”

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล แชมป์ลีกคัพ ไมเคิล โอเว่น

“ไมเคิล โอเว่น” โชว์ฟอร์มอันสุดยอดในเอฟเอคัพนัดชิงชนะเลิศ โดยทำได้ 2 ประตู เอาชนะอาร์เซน่อลไปด้วยสกอร์ 2-1

ทีมของ “เชราร์ อุลลิเย่ร์ ” ตกเป็นรองเกือบตลอดทั้งเกม แต่สองประตูอันจากยอดศูนย์หน้าของพวกเขาก็สามารถตัดสินเกมในที่สุด

2001

วันที่ 16 พฤษภาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล ทริปเปิ้ลแชมป์ ยูฟ่าคัพ 2001

“ลิเวอร์พูล” จารึกชื่อของตัวเองลงในหน้าประวัติศาสตร์อีกครั้ง เมื่อคว้าแชมป์ที่ 3 ของฤดูกาล ในค่ำคืนอันน่าตื่นเต้นที่ดอร์ทมุนด์ เมื่อพวกเขาเอาชนะ “อลาเบส” คว้าแชมป์ยูฟ่าคัพได้สำเร็จ

รอบชิงชนะเลิศอันน่าจดจำนี้จบลงด้วยสกอร์ 5-4 หลังจากมีการต่อเวลาพิเศษ และสุดท้ายลูกทำเข้าประตูตัวเองของฝั่งตรงข้ามก็ตัดสินทุกอย่าง

2001

วันที่ 12 สิงหาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลีกคัพ 2001

“ลิเวอร์พูล” เอาชนะคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” คว้าแชมป์แชริตี้ชิลด์ ณ มิลเลนเนี่ยม สเตเดี้ยม

2001

วันที่ 24 สิงหาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล บาเยิร์น มิวนิค ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์คัพ 2001

“ลิเวอร์พูล” กลายเป็นทีมจากอังกฤษทีมแรกที่คว้าแชมป์ได้ถึง 5 รายการ ภายในปีปฏิทินเดียวกัน เมื่อพวกเขาเอาชนะยักษ์ใหญ่แห่งเยอรมัน “บาเยิร์น มิวนิค” หยิบแชมป์ยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพไปครอง

2003

วันที่ 2 มีนาคม – ผลผลิตจากอคาเดมี่จัดการฝัง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ในคาร์ดิฟฟ์

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล ลีกคัพ แชมป์ 2003 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประตูจาก “สตีเว่น เจอร์ราร์ด” และ “ไมเคิล โอเว่น” ช่วยให้ “ลิเวอร์พูล” เอาชนะ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” คว้าแชมป์ลีกคัพในคาร์ดิฟฟ์ ซึ่งเป็นถ้วยแชมป์ใบที่ 6 ของ “เชราร์ อุลลิเย่ร์ ” ในช่วงเวลาเพียง 3 ปี

2005

วันที่ 25 พฤษภาคม – มหัศจรรย์แห่งอิสตัลบูล!!!

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล มหัศจรรย์แห่งอิสตัลบูล ลิเวอร์พูล แชมป์ ยูโรเปี้ยนคัพ สมัยที่ 5 เอซี มิลาน

ค่ำคืนอันน่าเหลือเชื่อที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร “ลิเวอร์พูล” เป็นการคว้าถ้วยแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพใบที่ 5 เพิ่มเข้าไปในตู้โชว์ที่แอนฟิลด์

ลูกทีมของ “ราฟาเอล เบนิเตซ” ตามหลัง “เอซี มิลาน” ถึง 3-0 เมื่อจบครึ่งเวลาแรก แต่ในครึ่งเวลาหลัง พวกเขาออกมาสร้างปาฏิหารย์ตามตีเสมอได้สำเร็จ ก่อนที่จะเอาชนะไปด้วยการดวลลูกจุดโทษ

2005

วันที่ 26 สิงหาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล ซีเอสเคเอ มอสโก ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2005

“ลิเวอร์พูล” พลิกเอาชนะ “ซีเอสเคเอ มอสโคว์ ” ในช่วงต่อเวลาพิเศษ คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพที่โมนาโก

2006

วันที่ 21 เมษายน

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล แชมป์เอฟเอยูธคัพ 2006

เป็นเวลา 10 ปีมาแล้ว หลังจากแชมป์เอฟเอยูธคัพครั้งแรกของสโมสรลิเวอร์พูล ผลผลิตล่าสุดของสโมสรที่มีพรสวรรค์คว้าถ้วยใบนี้มาได้อีกครั้ง โดยครั้งนี้พวกเขาเอาชนะ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” มาได้

2006

วันที่ 13 พฤษภาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล เอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล สตีเว่น เจอร์ราร์ด เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2006

“ลิเวอร์พูล” เอาชนะ “เวสต์แฮม ยูไนเต็ด” คว้าแชมป์เอฟเอคัพสมัยที่ 7 ในเกมซึ่งถูกเรียกในเวลาต่อมาว่า “เดอะเจอร์ราร์ดไฟน่อล”

“กัปตันแห่งลิเวอร์พูล” ยิงประตูตีเสมอในนาทีสุดท้ายเข้าไปอย่างเหลือเชื่อ และ “ลิเวอร์พูล” ก็เอาชนะไปในการดวลลูกจุดโทษ หลังจากเสมอกันแบบสุดมันส์ในเวลา 3-3 ที่คาร์ดิฟฟ์

2006

วันที่ 13 สิงหาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล เชลซี แชมป์คอมมูนิตี้ชิลด์ 2006

“ลิเวอร์พูล” เอาชนะ “เชลซี” คว้าแชมป์คอมมูนิตี้ชิลด์ ที่สนามมิลเลนเนียมในคาร์ดิฟฟ์

2007

วันที่ 5 กุมภาพันธ์

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ทอม ฮิคส์  จอร์จ ยิลเลตต์ ซื้อลิเวอร์พูล 2007

“เดวิด มัวร์ ” ขายสโมสรลิเวอร์พูลให้แก่นักธุรกิจชาวอเมริกัน “ทอม ฮิคส์ ” และ “จอร์จ ยิลเลตต์ “

2007

วันที่ 26 เมษายน

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล ป้องกันแชมป์เอฟเอยูธคัพ 2007

นักเตะเยาวชนของ “ลิเวอร์พูล” ป้องกันแชมป์เอฟเอยูธคัพไว้ได้ โดยการเอาชนะ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ในการดวลลูกจุดโทษที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด

2007

วันที่ 23 พฤษภาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล เอซี มิลาน ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2007 เอเธนส์

ความเจ็บปวดของ “ชาวลิเวอร์พูล” ทั้งมวล เมื่อพวกเขาพ่ายแพ้แก่ “เอซี มิลาน” ในแชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ในกรุงเอเธนส์

2007

วันที่ 4 กรกฎาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล เฟอร์นานโด ตอร์เรส 2007

“ลิเวอร์พูล” ทุบสถิติการย้ายทีมของพวกเขาเอง โดยการดึงตัวดาวเตะทีมชาติสเปน “เฟอร์นานโด ตอร์เรส” จาก “แอตเลติโก มาดริด”

2010

วันที่ 3 มิถุนายน

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ราฟาเอล เบนิเตซ ลิเวอร์พูล ผู้จัดการทีม

“ลิเวอร์พูล” แยกทางกับผู้จัดการทีม “ราฟาเอล เบนิเตซ” เป็นเวลา 6 ปี นับจากที่กุนซือชาวสเปนมาถึงแอนฟิลด์ โดย “เบนิเตซ” ได้ทิ้งข้อความไว้ว่า “ผมจะเก็บช่วงเวลาดีๆ ที่ผมได้รับจากที่นี่ไว้ในใจเสมอ รวมถึงการสนับสนุนอย่างเหนียวแน่นและจงรักภักดีจากแฟนบอล ในช่วงเวลาอันยากลำบาก และรวมถึงความรักจากสโมสรลิเวอร์พูล ผมไม่มีคำพูดที่ดีพอที่จะกล่าวขอบคุณสำหรับสิ่งทั้งหมดนี้ และผมรู้สึกภูมิใจมากที่จะกล่าวว่า ผมเคยเป็นผู้จัดการทีมที่นี่”

2010

วันที่ 1 กรกฎาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล 2010

“รอย ฮ็อดจ์สัน” ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ “ลิเวอร์พูล”

2010

วันที่ 15 ตุลาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล ถูกขาย เข้าซื้อ NESV 2010 Fenway Sports Group

New England Sports Ventures หรือ NESV ประกาศว่า พวกเขาได้เข้าซื้อสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลเป็นที่เรียบร้อย การเข้าซื้อของ NESV ซึ่งภายหลังรู้จักกันในชื่อ Fenway Sports Group ที่เป็นเจ้าของ “Boston Red Sox” “New England Sports Network” และ “Roush Fenway Racing” ได้บรรลุข้อตกลงในวันที่ 6 ตุลาคม

2011

วันที่ 8 มกราคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล รอย ฮ็อดจ์สัน ลิเวอร์พูล โดนไล่ออก ผู้จัดการทีม

“รอย ฮ็อดจ์สัน” อำลาสโมสร “ลิเวอร์พูล” โดยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย โดยมี “เคนนี่ เดลกลิช” เข้ามาคุมทีมจนจบฤดูกาล

2011

วันที่ 12 พฤษภาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล เดลกลิช ผู้จัดการทีม สัญญา 3 ปี 2011

“Fenway Sports Group” และ “สโมสรลิเวอร์พูล” ยืนยันว่า “เคนนี่ เดลกลิช” ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมเป็นการถาวร หลังจากบรรลุข้อตกลงสัญญา 3 ปี

2012

วันที่ 26 กุมภาพันธ์

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล 2012 ลิเวอร์พูล แชมป์ลีกคัพ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สิ้นสุดการรอคอย 6 ปี

“ลิเวอร์พูล” สิ้นสุด 6 ปีแห่งการรอคอยถ้วยแชมป์ ด้วยชัยชนะจากการดวลลูกจุดโทษสุดดราม่าเหนือ “คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้” ในลีกคัพรอบชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์

2012

วันที่ 16 พฤษภาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล เคนนี่ เดลกลิช โดยไล่ออก 2011

“ลิเวอร์พูล” แยกทางกับ “เคนนี่ เดลกลิช” หลังจากจบฤดูกาล 2011-12

2012

วันที่ 1 มิถุนายน

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม แต่งตั้ง 2012

“เบรนแดน ร็อดเจอร์ส” กลายเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 19 ของ “ลิเวอร์พูล” ผู้เข้ามารับตำแหน่งที่เก้าอี้กำลังร้อนฉ่า หลังจากเขามีผลงานอันน่าประทับใจกับ “สวอนซี ซิตี้”

2014

วันที่ 11 พฤษภาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ชวดแชมป์ลีก 2014 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แฟน “ลิเวอร์พูล” ต้องหัวใจสลายอีกครั้ง เมื่อพวกเขาโดน “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ปาดหน้าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองแบบสุดเฉียดฉิว แม้ว่า “ลิเวอร์พูล” จะได้กลับไปเล่นในรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้งก็ตาม

2015

วันที่ 4 ตุลาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล เบรนแดน ร็อดเจอร์ส โดนปลด ผู้จัดการทีม 2015

“เบรนแดน ร็อดเจอร์ส” โดนปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของ “ลิเวอร์พูล” หลังจากทำหน้าที่เป็นเวลากว่า 3 ปี กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือเข้าร่วมงานกับ “ลิเวอร์พูล” ในเดือนมิถุนายน 2012 และทำทีมจนลุ้นตำแหน่งแชมป์อย่างน่าจดจำในปีที่ 2 ของเขา เช่นเดียวกับผลงานการพัฒนานักเตะเยาวชนอันน่าตื่นตาตื่นใจของเขา

2015

วันที่ 8 ตุลาคม – “เจอร์เก้น คล็อปป์” เข้ารับตำแหน่ง ณ ถิ่นแอนฟิลด์

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล 2015 ลิเวอร์พูล เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม รับตำแหน่ง

สโมสรฟุตบอล “ลิเวอร์พูล” ประกาศว่า “เจอร์เก้น คล็อปป์” ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของสโมสร โดยกุนซือชาวเยอรมันมาถึงแอนฟิลด์พร้อมกับประวัติแห่งความสำเร็จที่ “โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ “

2016

วันที่ 18 พฤษภาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล แพ้ เซบีย่า ยูฟ่าคัพ นัดชิงชนะเลิศ 2016

“ลิเวอร์พูล” แพ้ให้กับ “เซบีญ่า” จากสเปนในยูโรป้าลีกรอบชิงชนะเลิศ โดย “ลิเวอร์พูล” ต้องเจอกับของแข็งอย่าง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” “โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ” และ “บียาร์เรอัล” ตลอดเส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศที่บาเซิล แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับขาใหญ่ของถ้วยใบนี้ ซึ่งนี่เป็นรอบชิงชนะเลิศที่ 2 ของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ในฐานะผู้จัดการทีม “ลิเวอร์พูล”

2016

วันที่ 10 กันยายน

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล

“Main Stand” ใหม่เปิดตัวต้อนรับแฟนบอลอย่างเป็นทางการ ในนัดที่ “ลิเวอร์พูล” รับการมาเยือนของทีมแชมป์เก่าอย่าง “เลสเตอร์ ซิตี้” โดยความจุ 20,500 ที่นั่ง ทำให้มันเป็นหนึ่งในอัฒจรรย์ที่นั่งอย่างเดียวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเลยทีเดียว

2016

วันที่ 29 พฤศจิกายน

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล เบ็น วู้ดเบิร์น ทำลายสถิติ ไมเคิล โอเว่น ลิเวอร์พูล อายุน้อยที่สุด ทำประตู ลีดส์ ยูไนเต็ด 2016

“เบ็น วู้ดเบิร์น” ทำลายสถิติที่ยืนยาวถึง 19 ปี ของ “ไมเคิล โอเว่น” โดยการกลายเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของ “ลิเวอร์พูล” ซึ่งเขาทำประตูที่ 2 ในเกมที่เอาชนะ “ลีดส์ ยูไนเต็ด” ด้วยอายุเพียง 17 ปี กับอีก 45 วัน

2017

วันที่ 3 มิถุนายน

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ครบรอบ 125 ปี

สโมสรฟุตบอล “ลิเวอร์พูล” เฉลิมฉลองวันเกิดครบรอบ 125 ปี

2019

วันที่ 1 มิถุนายน

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล 2019 แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 6 สเปอร์ มาดริด

“ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพสมัยที่ 6 โดยการเอาชนะ “ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ” ในนัดชิงชนะเลิศที่กรุงมาดริด

2019

วันที่ 21 ธันวาคม

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล แชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019

“ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงเแชมป์สโมสรโลกได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ในเดือนธันวาคม ปี 2019 โดย “ลิเวอร์พูล” เอาชนะ “มอนเตร์เรย์ ” ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะคว่ำ “ฟลาเมงโก” 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศที่ประเทศกาตาร์

2020

วันที่ 25 มิถุนายน

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยแรก 2020

“ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกของพวกเขา โดยพวกเขาได้แชมป์แน่นอนแล้วทั้งๆ ที่เหลือเกมให้เล่นอีกถึง 7 นัด!!!

a

คุณอาจสนใจ :

ตำนานสนามแอนฟิลด์
ทำเนียบแชมป์
ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล

a

Our References :

liverpoolfc.com

liverpoolecho.co.uk

thisisanfield.com

 5,013 total views,  3 views today