“ติอาโก้ อัลคันทาร่า” ศิลปินผู้ขับเคลื่อนเกมของ “ลิเวอร์พูล”
“ติอาโก้ อัลคันทาร่า” อดีตแชมป์ยุโรปกับ “บาเยิร์น มิวนิค” เป็นการเซ็นสัญญาที่ “ไม่ปกติ” นักของ “ลิเวอร์พูล” ผู้ซึ่งบางทียังไม่ต้องการให้ฤดูกาลจบลง
แฟนๆ “ลิเวอร์พูล” ใช้เวลาไม่น้อยในการยอมรับและเชื่อความจริงที่ว่า “ลิเวอร์พูล” ต้องการจะซื้อตัวมิดฟิลด์ระดับแถวหน้าของวงการ ที่มีอายุค่อนข้างเยอะแล้ว แทนที่จะเป็นนักเตะดาวรุ่งหน้าใหม่ แต่ในที่สุด “ติอาโก้” ก็จรดปากกาเซ็นสัญญา และในที่สุดเขาก็พิสูจน์แล้วว่า มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
เช่นเดียวกับนักเตะหลายๆ คนที่ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ที่ต้องการเวลาในการปรับตัว
สนามอันว่างเปล่า โปรแกรมลงเตะอันถี่ยิบ ช่วงปรีซีซั่นอันน้อยนิด รวมถึงแท็คติคของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ซึ่งต้องใช้เวลาในการเรียนรู้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ดูเหมือน “ติอาโก้” ก็สามารถปรับตัวได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่แล้วการบาดเจ็บก็ตรงเข้าเล่นงาน “ติอาโก้” ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาจำเป็นต้องต่อสู้มากขนาดไหนเพื่อการกลับมาอีกครั้ง
แม้จะประสบความยากลำบากในช่วงแรก แต่คุณภาพก็สามารถบอกตัวมันเองได้เสมอ และในที่สุด “ติอาโก้” ก็ได้กลับมาลงเล่นอย่างต่อเนื่องจนจบฤดูกาล
a
ฤดูกาล 2020/21 ของ “ติอาโก้”
ลงเล่นเป็นตัวจริง : 23 เกม (รวมทุกรายการ)
ลงเล่นเป็นตัวสำรอง : 7 เกม
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงเล่น : 1 เกม
ประตู : 1
แอสซิสต์ : 0
คะแนนความสามารถตลอดฤดูกาล : 7.5 (อันดับ 6)
a
โรเตชั่น และริชาร์ลิสัน
มันคงไม่เป็นอย่างที่ “ติอาโก้” คาดคิดไว้ เขาย้ายออกจาก “บาเยิร์น มิวนิค” ในฐานะแชมป์เกือบทุกรายการ จากนั้นก็พบว่าบางครั้งตัวเองไม่ได้อยู่ในทีม หรือไม่ก็ถูกเปลี่ยนตัวออกก่อนเวลาอันควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่สำคัญ
บางที เช่นเดียวกับที่ “ติอาโก้” ต้องการเวลาในการสร้างความคุ้นเคยกับความต้องการทางแท็คติคของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ซึ่งไม่เน้นการครองบอล ตัวผู้จัดการทีมเองก็ต้องการเวลาในการเชื่อใจผู้เล่น ที่เปี่ยมด้วยสัญชาตญาณและพรสวรรค์อันเป็นธรรมชาติ ที่ดาวเตะสแปนิชมี เช่นกัน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันเป็นความผิดพลาดที่ไม่ส่ง “ติอาโก้” ลงเล่นในเกมที่พบกับ “เรอัล มาดริด” เช่นเดียวกับการถอดเขาออกในบางเกม ซึ่งในช่วงท้ายๆ มิได้ต้องการความสดใหม่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องการการควบคุมบอลด้วยความเยือกเย็นของเขาเสียมากกว่า
การที่ “ติอาโก้” โดนเปลี่ยนตัวออกเหมือนเป็นการปล้นชัยชนะของ “ลิเวอร์พูล” เอง ซึ่งนั่นเป็นความผิดพลาดที่มีราคาแพงไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม บางครั้งปัญหาก็เกิดขึ้นจากการกระทำของเขาเอง การเข้าสกัดที่ช้าเกินไป หรือการฟาล์วโดยไม่จำเป็น ทำให้เขาได้รับใบเหลืองมากกว่าที่ควรจะเป็น และบางครั้งก็ส่งผลเสียต่อทีม
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่ “ติอาโก้” ต้องประสบ เป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของเขา การเข้าสกัดอย่างรุนแรงและน่าเกลียดของ “ริชาร์ลิสัน” ทำให้ผู้เล่นหมายเลข 6 รายนี้ต้องขาดหายไปจากเกมเป็นเวลาหลายเดือน
มันเป็นจังหวะเวลาที่เลวร้ายสำหรับทีม และสำหรับตัว “ติอาโก้” ด้วยเช่นกัน หลังจากเขาเพิ่งเริ่มแสดงระดับความปราดเปรื่องและอิทธิพลที่มีต่อทีมได้เพียงไม่นาน
ทุกคนจึงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ครึ่งฤดูกาลแรกของ “ติอาโก้” นั้นไม่มีความน่าตื่นเต้นเหมือนอย่างที่แฟนๆ คาดคิดไว้
อย่างไรก็ตาม เช่นดังคำกล่าวว่า “ฟอร์มการเล่นเป็นเรื่องชั่วคราว แต่คลาสเป็นสิ่งถาวร” ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน “ติอาโก้” ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า นั่นเป็นคำกล่าวที่ถูกต้อง
a
ฟอร์มการเล่นอันโดดเด่น
“การทำประตูช่วยได้เสมอ” “ติอาโก้” ทำประตูแรกของเขาให้กับ “ลิเวอร์พูล” เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ช่วยให้ทีมคว้าสามแต้มในเกมที่พบกับ “เซาแธมป์ตัน” นับเป็นการสิ้นสุดเกมแล้วเกมเล่าของเขา ที่ปราศจากประตูและแอสซิสต์
แต่ในความเป็นจริง “ติอาโก้” ค้นพบฟอร์มของเขาเรียบร้อยแล้ว ก่อนเกมดังกล่าว
ในช่วง 8 สัปดาห์สุดท้ายของฤดูกาล “ติอาโก้” นับเป็นแรงขับเคลื่อนของ “ลิเวอร์พูล” อย่างแท้จริง โดยการควบคุมจังหวะของเกม แม้กระทั่งในแดนของคู่แข่ง เขาสามารถเปลี่ยนจังหวะการเล่น หาช่องว่างในแนวรับ หรือไม่ก็เลี้ยงจี้เข้าหากองหลังเพื่อเปิดช่องด้วยตัวของเขาเอง
คุณสามารถเดิมพันได้เลยว่า ทักษะอย่างหลังนี้จะต้องถูกใช้งาน และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในฤดูกาลหน้า
“ติอาโก้” บีบบังคับพวกกองหลังให้ต้องตัดสินใจ เขาจะหยุดนิ่ง ก่อนจะพุ่งไปยังที่ว่าง และทำลายแนวรับของคู่แข่งด้วยการผ่านบอลอันเฉียบคม และเขายังสามารถฉีกตัวออกมาจากวงล้อมอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะวางบอลไปยังที่ว่าง ที่คู่ต่อสู้เพิ่งเปิดเอาไว้
ดังนั้น ยิ่งมีผู้เล่น “ลิเวอร์พูล” วิ่งหาพื้นที่ว่างมากเท่าไหร่ “ติอาโก้” ยิ่งมีประสิทธิภาพมากเท่านั้น นั่นคือสิ่งที่เพื่อนร่วมทีมได้เรียนรู้เมื่อผ่านไปเกมแล้วเกมเล่า
“ติอาโก้” เป็นผู้ขับเคลื่อนเกมอย่างแท้จริง เขาเล่นได้อย่างน่าประทับใจ และมีความผิดพลาดน้อยลงเรื่อยๆ
เขามักจะพุ่งขึ้นไปข้างหน้าเสมอ เมื่อทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ หรือใกล้เคียง “ติอาโก้” มองหาที่ว่างตลอดเวลา และบ่อยครั้งที่เขาช่วยเพื่อนร่วมทีมหาที่ว่างด้วยเช่นกัน
ยอดตัวทำเกมชาวสเปนคงไม่อยากให้ฤดูกาลจบลงสักเท่าไหร่ เนื่องจากเขากำลังอยู่ในฟอร์มอันร้อนแรง แต่เขาก็อาจจะเป็นหนึ่งในดาวจรัสแสงในยูโร 2020 ก็เป็นได้
และสำหรับ “ลิเวอร์พูล” ฤดูกาลหน้าจะเป็นช่วงเวลาอันตื่นเต้น ที่แฟนๆ ตั้งตารออย่างไม่ต้องสงสัย
คุณอาจสนใจ :
ข้อมูลนักเตะลิเวอร์พูล
ตำนานสนามแอนฟิลด์
ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ทำเนียบแชมป์
ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล
a
Our References :
a
3,525 total views, 1 views today