ตัดเกรดแข้ง “ลิเวอร์พูล” ตลอดฤดูกาล 2020/21
หลังจากฤดูกาลอันยาวนานและสุดแสนทรหดของ “ลิเวอร์พูล” ผู้เล่นแต่ละคนได้รับคะแนนความสามารถเฉลี่ยตลอดฤดูกาลเป็นอย่างไร และอยู่ในอันดับที่เท่าใดของทีม?
ลูกทีมของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” จบเป็นอันดับที่ 3 ของพรีเมียร์ลีก และได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้า ท่ามกลางปัญหารุมเร้านานับประการ
มันไม่ใช่ฤดูกาลที่น่าจดจำสักเท่าไหร่สำหรับ “ลิเวอร์พูล” แต่พวกเขาก็สามารถฟื้นคืนชีพได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งๆ ที่ทุกอย่างดูเหมือนจะสิ้นหวังไปแล้ว
คำถามก็คือ ผู้เล่นคนใดที่เล่นได้อย่างโดดเด่นที่สุดในฤดูกาล 2020/21
(นับเฉพาะนักเตะที่ลงเล่น 10 นัดขึ้นไปเท่านั้น โดยที่ “ทาคุมิ มินามิโนะ” จะไม่ได้รับการกล่าวถึง เนื่องจากเป็นการปล่อยยืมตัว)
a
อันดับ 23 – ดิว็อค โอริกี้
ตัวจริง 6 นัด, สำรอง 11 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 4.16
ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่เห็น “ดิว็อค โอริกี้” อยู่ในอับดับสุดท้าย เนื่องจากอนาคตของเขาที่ “ลิเวอร์พูล” ดูเหมือนจะใกล้ดับลงเต็มที
อาการบาดเจ็บและฟอร์มการเล่นอันตกต่ำ ทำให้นักเตะเบลเยี่ยมรายนี้ ลงเล่นเพียงแค่ 182 นาที ในลีกเท่านั้น และเขาทำได้เพียงประตูเดียว ในการพบกับ “ลินคอล์น ซิตี้” ในลีกคัพ
a
อันดับ 22 – นาบี้ เกอิต้า
ตัวจริง 9 นัด, สำรอง 7 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 4.83
ไม่ใช่ฤดูกาลอันน่าจดจำแม้แต่น้อย สำหรับ “นาบี้ เกอิต้า” ในถิ่นแอนฟิลด์
เขาประสบปัญหาในเรื่องความฟิตอย่างต่อเนื่อง แต่แม้กระทั่งเมื่อได้ลงเล่น บ่อยครั้งที่การเล่นของเขาก็ยังดูจืดชืดและไร้ชีวิตชีวา
โดยเฉพาะในเกมที่พบกับ “เรอัล มาดริด” ซึ่ง “นาบี้ เกอิต้า” ได้รับเลือกให้ลงเล่นก่อนหน้า “ธิอาโก้” อย่างน่าประหลาดใจ
a
อันดับ 21 – เนโค วิลเลี่ยมส์
ตัวจริง 9 นัด, สำรอง 5 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 5.33
เคยมีความหวังว่า ในฤดูกาลนี้จะได้เห็น “เนโค วิลเลี่ยมส์ ” ในสีเสื้อ “ลิเวอร์พูล” แต่ความไม่เชื่อมั่นในการเติมเกมรุกของเขาก็ยังคงดำเนินต่อไป
ในขณะที่เขายังคงเป็นตัวเลือกในอันดับที่ 2 ในตำแหน่งแบ็คขวา จำเป็นที่เขาจะต้องทำงานให้หนักมากขึ้นเพื่อให้ได้รับโอกาสมากกว่าที่เป็นอยู่
a
อันดับ 20 – อเล็กซ์ อ็อกซเลด-แชมเบอร์เลน
ตัวจริง 2 นัด, สำรอง 15 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 5.83
“อ็อกซเลด-แชมเบอร์เลน” เป็นอีกคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสภาพความฟิต โดยมิดฟิลด์รายนี้ไม่เคยเล่นได้ท็อปฟอร์มเหมือนเดิมอีกเลย ตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บที่เอ็นไขว้ในปี 2018
แม้นักเตะวัย 27 ปี รายนี้จะสามารถยิงประตูอย่างสุดสวยที่ “เบิร์นลี่ย์ ” ได้ แต่การได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพียง 2 เกม คงไม่ใช่เป็นฤดูกาลที่ดีสำหรับเขาอย่างแน่นอน
เขาอาจจะตัดสินใจอยู่ต่อที่ “ลิเวอร์พูล” แต่การย้ายไปอยู่ทีมกลางตารางในฐานะตัวจริง ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับเขาเช่นกัน
a
อันดับ 19 – เซอร์ดาน ชากิรี่
ตัวจริง 7 นัด, สำรอง 15 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 5.83
เช่นเดียวกับ “โอริกี้” “เซอร์ดาน ชากิรี่” น่าจะมาถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางที่ “ลิเวอร์พูล” แล้ว
นักเตะวัย 29 ปี รายนี้ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเพียง 7 เกม และทำได้เพียง 2 แอสซิสต์ และมักจะถูกมองข้ามโดย “เจอร์เก้น คล็อปป์” อยู่เสมอ ทั้งๆ ที่เขาพร้อมจะลงสนามถึง 30 เกมติดต่อกัน
a
อันดับ 18 – โจ โกเมซ
ตัวจริง 10 นัด, สำรอง 2 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 6.16
ฤดูกาลของ “โจ โกเมซ” ถูกทำลายลงโดยการบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่หัวเข่า พร้อมกับคำถามว่า เขาจะสามารถกลับมาเป็นผู้เล่นคนเดิมได้หรือไม่
ก่อนที่เขาจะได้รับบาดเจ็บ เซ็นเตอร์แบ็ครายนี้กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ในช่วงที่ขาดจอมทัพในแนวรับอย่าง “เวอร์จิล ฟานไดจ์ค”
a
อันดับ 17 – โจเอล มาติป
ตัวจริง 11 นัด, สำรอง 1 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 6.16
เมื่อนักเตะแคเมอรูนรายนี้ลงสนาม เขาเล่นได้อย่างมีระดับและโดดเด่น แม้จะไม่มี “ฟานไดจ์ค” และ “โกเมซ” เคียงข้าง แต่สุดท้ายอาการบาดเจ็บก็เล่นงานเขาอย่างไม่น่าเชื่อ
เขาไม่ได้ลงเล่นตั้งแต่เดือนมกราคม และไม่น่าจะได้รับการไว้วางใจเป็นตัวเลือกแรกๆ ในอนาคตเช่นกัน
a
อันดับ 16 – เจมส์ มิลเนอร์
ตัวจริง 19 นัด, สำรอง 17 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 6.33
นี่เป็นฤดูกาลที่เห็นได้ว่า อายุของ “เจมส์ มิลเนอร์ ” เริ่มไล่ตามเขาทันบ้างแล้ว แม้เขาจะคงโชว์ฟอร์มได้ดีในการลงเล่น 36 นัด ก็ตาม
ไม่มีใครกล้าปฏิเสธระดับความมุ่งมั่นและความเป็นมืออาชีพของเขา แต่ในความเป็นจริง กำลังขาของเขาเริ่มถดถอย และบ่อยครั้งที่เขาเล่นแบบไม่มีมิติเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม “เจมส์ มิลเนอร์ ” ยังคงเป็นกำลังสำคัญของทีมในวิกฤติการบาดเจ็บ และมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะตัดสินใจเล่นต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ปี
a
อันดับ 15 – ซาดิโอ มาเน่
ตัวจริง 41 นัด, สำรอง 7 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 6.33
ตามมาตรฐานที่เคยทำได้ของ “ซาดิโอ มาเน่” ต้องบอกว่า นี่เป็นฤดูกาลที่ไม่ค่อยดีสำหรับเขา
แนวรุกวัย 29 ปี รายนี้จบฤดูกาลอย่างยอดเยี่ยม ในเกมสุดท้ายในบ้านกับ “คริสตัล พาเลซ” แต่ความเป็นจริงก็คือ เขายังคงไล่ตามเงาของตัวเขาเองมาเป็นเวลานานแล้ว
อย่างไรก็ตาม 11 ประตู และ 7 แอสซิสต์ ในลีก เป็นตัวเลขที่ผู้เล่นโดยทั่วๆ ไปควรจะพอใจกับมัน
a
อันดับ 14 – โอซาน คาบัค
ตัวจริง 13 นัด, สำรอง 0 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 6.5
ดูเหมือน “โอซาน คาบัค” จะไม่ได้อยู่กับเราต่อไปหลังจากซัมเมอร์นี้ แต่เขาก็ควรจะได้รับการจดจำในผลงานอันยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในช่วงเวลาอันแสนจะย่ำแย่ของทีม
แม้จะเริ่มต้นได้อย่างน่าผิดหวัง ในเกมที่ไปเยือน “เลสเตอร์ ซิตี้” แต่นักเตะตุรกีรายนี้ ก็ดูจะมีความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่เขาจะได้รับบาดเจ็บในเวลาต่อมา
หลายๆ คนคงลืมไปว่า “โอซาน คาบัค” เพิ่งจะอายุครบ 21 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเขาอ่อนกว่า “แน็ท ฟิลลิปส์ ” อยู่สามปี
a
อันดับ 13 – รีส วิลเลี่ยมส์
ตัวจริง 14 นัด, สำรอง 5 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 6.66
ต่อไปนี้ “รีส วิลเลี่ยมส์ ” สามารถจะเดินยืดอกได้อย่างภาคภูมิใจ โดยเขาเป็นส่วนเติมเต็มในยามที่สโมสรเผชิญกับวิกฤติเซ็นเตอร์แบ็คเช่นนี้
เจ้าหนูคนนี้ยังคงห่างไกลกับคำว่า “สมบูรณ์แบบ” โดยถูกเล่นงานอย่างหนักในเกมกับ “แอสตัน วิลล่า” และเกือบมอบของขวัญชิ้นงามให้กับ “เบิร์นลี่ย์ “
อย่างไรก็ตาม ในเกมท้ายๆ ของฤดูกาล “รีส วิลเลี่ยมส์ ” ได้โชว์หัวใจอันกล้าแกร่ง โดยสามารถลงเล่นภายใต้แรงกดดันสูง และช่วยทีมผ่านพ้นวิกฤติมาได้
a
อันดับ 12 – โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
ตัวจริง 38 นัด, สำรอง 10 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 6.66
เช่นเดียวกับ “มาเน่” “โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่” เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่เราคาดหวังเป็นอย่างมาก แต่เขาก็เริ่มแสดงสัญญาณชีพได้ทันเวลาในช่วงท้ายของฤดูกาล
บ่อยครั้งมากที่เขาจับบอลไม่อยู่ ดูเก้งก้าง และจังหวะจบสกอร์ก็ไม่มีความแน่นอน แต่ต้องบอกว่า หลายๆ ครั้ง เขาก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน
ประตูชัยในเกมที่พบกับ “สเปอร์ ” เป็นสิ่งที่น่าจดจำ ในขณะที่ประตูที่ยิงใส่ “คริสตัล พาเลซ” ก็โชว์ความสุดยอดของศูนย์หน้ารายนี้ ด้วยเช่นกัน
a
อันดับ 11 – จินี่ ไวจ์นัลดุม
ตัวจริง 45 นัด, สำรอง 6 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 7.16
“จินี่ ไวจ์นัลดุม” ลงเล่นเกมสุดท้ายให้กับ “ลิเวอร์พูล” ไปแล้ว หลังจากฤดูกาลแห่งการทำงานอย่างหนัก และสามารถพึ่งพาได้ตามมาตรฐานของเขา
ขณะที่คนอื่นเดินเข้าห้องรักษาตัวกันเป็นว่าเล่น นักเตะดัตช์รายนี้ ลงเล่นเกือบจะทุกเกมในช่วงเวลาอันแสนยากลำบากของทีม
มันอาจจะไม่ใช่ฤดูกาลที่ดีที่สุดของ “ไวจ์นัลดุม” แต่การลงเล่นถึง 51 เกม ตลอดฤดูกาลนับเป็นความทรหดอดทนของสภาพร่างกายอย่างแท้จริง
a
อันดับ 10 – เคอร์ติส โจนส์
ตัวจริง 22 นัด, สำรอง 12 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 7.33
“เคอร์ติส โจนส์ ” เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงต้นฤดูกาล หากเลือกจะมองข้ามบางเกมที่เล่นได้ไม่ค่อยดีแล้ว นี่นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญในเส้นทางที่ถูกต้องของเขาเลยทีเดียว
ย้อนกลับไปในฤดูหนาว เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้ดีของทีม โดยทำประตูชัยในเกมที่พบกับ “อาแจ็กซ์ ” และแสดงความเติบโตจากการเล่นในสนาม
ที่อายุเพียง 20 ปี “เคอร์ติส โจนส์ ” ยังสามารถพัฒนาได้อีกมากมาย และคงไม่น่าแปลกใจ หากจะเห็นเขาลงเล่นมากขึ้นในฤดูกาลหน้า ซึ่งจะไม่มี “ไวจ์นัลดุม” อยู่ด้วยอีกแล้ว
a
อันดับ 9 – แน็ท ฟิลลิปส์
ตัวจริง 18 นัด, สำรอง 2 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 7.33
ใครจะกล้าบอกว่า “แน็ท ฟิลลิปส์ ” จะติดท็อปเทน หากย้อนไปเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว???
กองหลังรายนี้ได้กลายเป็นฮีโร่ ณ ถิ่นแอนฟิลด์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยมีบทบาทสำคัญในการช่วยทีมจบเป็นอันดับ 3 ได้อย่างยิ่งใหญ่
“แน็ท ฟิลลิปส์ ” อาจจะมีข้อจำกัดหลายอย่าง แต่เขาเป็นเจ้าเวหา โดยเขามีสถิติชนะลูกดวลกลางอากาศที่ไม่เป็นรองใครในพรีเมียร์ลีก และเป็นผู้ทำประตูสำคัญอย่างยิ่งในเกมที่บุกไปเยือน “เบิร์นลี่ย์ ” อีกด้วย
ความมุ่งมั่นของเขาจะไม่ถูกลืมอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะเลือกย้ายทีมออกไปในซัมเมอร์นี้หรือไม่ก็ตาม
a
อันดับ 8 – แอนดี้ โรเบิร์ตสัน
ตัวจริง 48 นัด, สำรอง 2 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 7.33
ฟอร์มการเล่นของ “แอนดี้ โรเบิร์ตสัน” ค่อนข้างสวนทางกับ “ไวจ์นัลดุม” โดยนักเตะสก็อตรายนี้เล่นได้อย่างโดดเด่นในช่วงต้นฤดูกาล ก่อนที่การต้องลงเล่นในโปรแกรมอันถี่ยิบ จะทำให้เขาอ่อนล้าลงอย่างเห็นได้ชัด
โดยมาตรฐานของแบ็คซ้ายรายนี้ นี่นับเป็นฤดูกาลที่ดีของเขา พร้อมสถิติแอสซิสต์จำนวน 7 ครั้ง
“แอนดี้ โรเบิร์ตสัน” มีความเติบโตขึ้นในช่วง 10 เกมท้ายฤดูกาล โดยเขาแสดงความผู้นำออกมา ในช่วงที่นักเตะตัวเก๋าคนอื่นๆ ไม่อยู่ในสนาม
a
อันดับ 7 – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
ตัวจริง 25 นัด, สำรอง 3 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 7.5
มันรู้สึกเหมือน “จอร์แดน เฮนเดอร์สัน” ลงเล่นครั้งสุดท้ายเมื่อนานแสนนานมาแล้ว เขาเป็นผู้มีอิทธิพลต่อทีมสูง ก่อนที่การบาดเจ็บจะเล่นงาน
กัปตันถูกปล้นประตูชัยในนาทีสุดท้ายที่กูดิสันพาร์ค ซึ่งเขาไม่เคยเล่นได้ห่างไกลจากจุดสูงสุดเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะเมื่อเปรียบกับคนอื่นๆ ในทีม
“เฮนโด้” เป็นเซ็นเตอร์แบ็คจำเป็นได้ไม่เลว แม้จะทำได้ไม่สมบูรณ์แบบก็ตาม
a
อันดับ 6 – ธิอาโก้ อัลคันทารา
ตัวจริง 23 นัด, สำรอง 7 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 7.5
ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล “ธิอาโก้” แสดงความเป็นนักเตะระดับโลกออกมาในเกือบทุกจังหวะที่เขาได้บอล
นับเป็นฤดูกาลที่ดีในถิ่นแอนฟิลด์ ของผู้เล่นมิดฟิลด์รายนี้ แม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวนถึง 3 เดือน และมีปัญหาต่างๆ ภายในทีมรุมเร้าก็ตาม
“ธิอาโก้ อัลคันทารา” เป็นแมนออฟเดอะแมทช์ หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียง ในเกมส่วนใหญ่ที่เขาลงเล่นในช่วงท้ายฤดูกาล ซึ่งคาดว่าเขาน่าจะระเบิดฟอร์มอันสุดยอดอีกครั้งในฤดูกาลหน้า
เป็นนักเตะที่คุณดูเขาเล่นได้ทั้งวัน ไม่ใช่เพียงเพราะเขาทำอะไรก็ดูง่ายไปเสียหมด แต่เพราะเขามักเล่นบอลด้วยจินตนาการ ที่บ่อยครั้งคุณคาดไม่ถึงอีกด้วย
a
อันดับ 5 – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
ตัวจริง 43 นัด, สำรอง 2 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 7.83
ลองจินตนาการว่า “เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ” ไม่ได้ไปยูโรด้วยสิ คงจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ชาญฉลาดอย่างแน่นอน
เจ้าหนูสูญเสียมนต์ขลังของเขาไปในฤดูกาลนี้ โดยทำแอสซิสต์ไม่ได้แม้แต่ลูกเดียวในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม แต่เขาก็กลับมาเล่นได้อย่างโดดเด่นอีกครั้ง เมื่อเวลาที่จำเป็นมาถึง
ประตูชัยในช่วงทดเวลาพิเศษในเกมที่เจอกับ “แอสตัน วิลล่า” เป็นหัวใจสำคัญในการต่อสู้เพื่อกลับสู่ท็อปโฟร์อีกครั้งของ “ลิเวอร์พูล” และการเล่นในช่วงท้ายฤดูกาลของเขาเต็มไปด้วยเทคนิคชั้นยอด และจิตใจของผู้ชนะอย่างแท้จริง
a
อันดับ 4 – ดิโอโก้ โชต้า
ตัวจริง 19 นัด, สำรอง 11 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 8
“ดิโอโก้ โชต้า” ไม่ใช่นักเตะที่มีชื่อเสียงก้องโลก ในตอนที่เขาย้ายมาสู่ทีม แต่ 13 ประตู จากการลงเล่น 30 นัด เป็นเครื่องพิสูจน์ของฤดูกาลแรกของเขาที่ “ลิเวอร์พูล” ได้เป็นอย่างดี
มีช่วงเวลาหนึ่งที่นักเตะโปรตุเกสรายนี้ทำประตูโดยเฉลี่ย 1 ลูกต่อเกมเลยทีเดียว โดยกดประตูชัยในเกมที่พบกับ “เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด” และ “เวสต์แฮม” รวมถึงการทำแฮตทริคใส่ “อตาลันต้า” อีกด้วย
“ดิโอโก้ โชต้า” ได้รับการคาดหมายว่า น่าจะเป็นหนึ่งในสามแนวรุกตัวหลักในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน
a
อันดับ 3 – อลิสซอน เบ็คเกอร์
ตัวจริง 42 นัด, สำรอง 0 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 8
หากถามว่า “อลิสซอน เบ็คเกอร์ ” เล่นได้ดีเท่าฤดูกาลที่แล้วหรือไม่? คำตอบคือ ไม่
หากถามว่า นี่เป็นฤดูกาลอันยอดเยี่ยมของเขาหรือไม่ คำตอบคือ แน่นอนที่สุด!!!
นายด่านชาวบราซิเลี่ยนรายนี้ต้องประสบกับความสูญเสียในครอบครัวระหว่างฤดูกาล แต่เขากลับแสดงหัวใจอันแข็งแกร่งให้เห็นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ประตูชัยของเขาในช่วงเกือบวินาทีสุดท้ายของเกมกับ “เวสต์บรอมวิช” จะเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร “ลิเวอร์พูล” อย่างไม่ต้องสงสัย แต่เขาก็ทำหน้าที่หลักของเขาระหว่างเสาโกล์ทั้งสองข้างได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกัน โดยเฉพาะใน 10 เกมสุดท้าย ซึ่ง “ลิเวอร์พูล” ไม่ปราชัยต่อทีมใดเลย
a
อันดับ 2 – ฟาบินโญ่
ตัวจริง 38 นัด, สำรอง 4 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 8.5
นักเตะอเมริกาใต้ผู้แข็งแกร่งฉายแววทั้งในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค และมิดฟิลด์ เขาเล่นได้อย่างโดดเด่นและสม่ำเสมอ เขาทำทุกอย่างแทบจะไร้ที่ติ แม้ในช่วงเวลาที่กองหลังระดับท็อปไม่อยู่ในสนามก็ตาม
“ฟาบินโญ่” กลับคืนสู่ตำแหน่งหมายเลข 6 และนั่นมีส่วนช่วยในการกระตุ้น “ธิอาโก้” ให้พลิกฟอร์มกลับมาอีกครั้ง นับว่าเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ที่ช่วยให้พวกเขาได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ
a
อันดับ 1 – โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์
ตัวจริง 47 นัด, สำรอง 4 นัด
คะแนนเฉลี่ย : 9
ในฤดูกาลที่แล้ว มีผู้เข้ารอบมากมายในการคัดเลือกผู้เล่นแห่งปี แต่ในฤดูกาล 2020/21 มันแสนจะง่ายดาย
“โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ ” เล่นได้อย่างโดดเด่นที่สุด ในฤดูกาลอันยากลำบากที่สุดของ “ลิเวอร์พูล” โดยทำประตูได้ถึง 31 ลูก
ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ “ซาล่าห์ ” กล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า “ฤดูกาลนี้ยังไม่ถูกตัดสินจากผลการแข่งขันล่าสุด” และเขาก็รักษาสัญญา โดยการสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนร่วมทีม และทำประตูอย่างมากมาย
เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่มีเขาอยู่ด้วย จินตนาการไม่ออกเลยว่า “ลิเวอร์พูล” จะเป็นอย่างไร หากต้องสูญเสียเขาไป
คุณอาจสนใจ :
ข้อมูลนักเตะลิเวอร์พูล
ตำนานสนามแอนฟิลด์
ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ทำเนียบแชมป์
ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล
a
Our References :
a
4,695 total views, 1 views today