
คะแนนความสามารถนักเตะ “ลิเวอร์พูล” เกมแดงเดือด
“ลิเวอร์พูล” มุ่งหน้าสู่โอลด์แทร็ฟฟอร์ดโดยตระหนักดีกว่า ชัยชนะ 4 นัดจาก 4 เกมที่เหลืออาจจะช่วยให้พวกเขาจบท็อปโฟร์ ดังนั้นชัยชนะนัดแรกของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ที่สนามแห่งนี้จึงนับว่าเกิดขึ้นในเวลาที่แสนจะสมบูรณ์แบบ!!!
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-4 ลิเวอร์พูล
เกมพรีเมียร์ลีก
สนามโอลด์แทร็ฟฟอร์ด
วันที่ 14 พฤษภาคม 2021 เวลา 02.15
ประตู : แฟร์นันด์ส 10′, แรชฟอร์ด 68′
โชต้า 34′, ฟีร์มีโน่ 45+3′ และ 47′, ซาล่าห์ 89′
a
อลิสซอน – 6
ออกสตาร์ทไม่ดีโดยการส่งลูกส้มหล่นให้ “เอดิสัน คาวานี่” แต่สุดท้ายก็รอดได้หวุดหวิด
ไม่สามารถทำอะไรได้กับลูกที่แฉลบเขาประตู โดยรวมแล้วไม่ค่อยปัญหาอะไรในช่วงเวลาที่เหลือของครึ่งแรก
ลูกจ่าย 2 ครั้งของเขาในครึ่งหลังเกือบทำให้ทีมตกอยู่ในอันตราย
a
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ – 9
(แมนออฟเดอะแมทช์ )
เปิดบอลอันตรายได้หลายลูกเมื่อเขาดันขึ้นสูง มีการดวลกันระหว่าง “เทรนท์ ” และ “ป๊อกบา” หลายครั้งในครึ่งแรก
เปิดฟรีคิกอันเฉียบคมให้กับ “ฟีร์มีโน่” โขกทำประตูขึ้นนำ และลูกยิงของเขาที่ถูกปัดออกมาก็กลายเป็นประตูที่ 2 ของ “ฟีร์มีโน่” ในเกมนี้
ผ่านบอลได้อย่างสุดยอดตลอดเกม และจบเกมด้วยการเป็น “แมนออฟเดอะแมทช์ ” ซึ่งสันนิษฐานได้ว่า “เซาธ์เกต” ซึ่งนั่งอยู่บนอัฒจรรย์ได้จดอะไรบางอย่างออกไปด้วย
a
รีส วิลเลี่ยมส์ – 7

งานค่อนข้างเบากว่า “แน็ท ฟิลลิปส์ ” ในครึ่งแรก แต่สามารถเข้าสกัดสวยๆ ได้ 2 ลูก ด้วยรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชง
ลูกแรกเป็นการแยงหาลูกบอลที่ดูน่าอึดอัด ส่วนอีกลูกเป็นการเข้าสกัดที่ละเอียดอ่อน ถูกจังหวะถูกเวลา
ประเด็นก็คือ มันไม่สำคัญหรอกว่า กองหลังจะเข้าสกัดด้วยวิธีอะไร แค่ทำให้สำเร็จก็พอ ซึ่ง “รีส” เป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมในประเด็นนี้
นอกจากนั้นเขายังบล็อกลูกยิงของ “เมสัน กรีนวู้ด” ได้อีกด้วย
a
แน็ท ฟิลลิปส์ – 6
ออกสตาร์ทได้ไม่ดีเลย ออกบอลพลาดหลายลูก ตัดบอลตรงกลางไม่ได้ และลูกยิงของ “บรูโน่ แฟร์นันด์ส” แฉลบตัวเขาจนเป็นประตูขึ้นนำของ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
ทำพลาดอย่างร้ายแรงโดยการขึ้นสูงเกินไปจนสุดท้ายกลายเป็นประตูที่ 2 ของ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
เกือบจะเรียกลูกจุดโทษให้ทีมได้ แต่ก็แสดงถึงความนิ่งและทักษะอันยอดเยี่ยมในกรอบเขตโทษไม่อีกกี่นาทีต่อมา โดยการเลี้ยงหาที่ว่างและแทงมาที่หน้าประตูกลายเป็นแอสซิสต์ให้กับ “โชต้า” และนอกจากนั้นเขายังช่วยเคลียร์บอลออกจากเส้นประตูได้อีกด้วย
เหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นข้อพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นในตัวเองของ “แน็ท ฟิลลิปส์ ” ว่าเขาได้เติบโตมากขึ้น หลังจากการเปิดตัวที่ไม่สวยเอาเสียเลย ซึ่งพวกเรายังคงต้องพึ่งเขาอีกใน 3 เกมที่เหลือ
a
แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – 8
กล่าวอย่างตรงไปตรงมา นี่เป็นฟอร์มตามมาตรฐานของ “แอนดี้ โรเบิร์นสัน” อย่างแท้จริง
เขาวิ่งไปข้างหน้า เขาวิ่งสอดทำทาง เขาเปิดบอลสวยๆ เขาวิ่งกลับ เขาเข้าสกัด เขาเข้าประกบ ฯลฯ
ขยันทุ่มเท เชื่อมเกมได้ดี และเล่นเกมสวนกลับได้อย่างยอดเยี่ยม
a
ฟาบินโญ่ – 8

เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมตามมาตรฐาน ประกบ “บรูโน่ แฟร์นันด์ส” จนแทบเล่นไม่ออก
a
ติอาโก้ – 8
คุมจังหวะเกมได้อย่างไหลลื่น และแย่งบอลคืนได้เป็นจำนวนมาก
เขาเปลี่ยนจังหวะเกมได้อย่างสุดยอด และเขาเป็นกุญแจสำคัญในการโต้กลับอย่างรวดเร็ว
a
จีนี่ ไวจ์นัลดุม – 6
ตามเกมไม่ค่อยทันที่ช่วงแรก แต่เมื่อเริ่มปรับตัวได้ เขาก็ช่วยงานได้เยอะในแดนกลาง
อย่างไรก็ตาม นับว่าเขามีส่วนร่วมกับเกมน้อยที่สุดในบรรดามิดฟิลด์ทั้ง 3 คนในครึ่งเวลาหลัง และหายไปจากเกมในช่วงที่ “แมนฯ ยูไนเต็ด” ทำเกมบุกอย่างหนัก
a
โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ – 8

เป็นผู้เล่นที่มีความมุ่งมั่น และมีสไตล์การเล่นตรงไปตรงมา ในครึ่งแรกได้บอลและหาจังหวะทำประตูได้ค่อนข้างน้อย
อันตรายในเกมสวนกลับในครึ่งหลัง และเปิดเกมสวยๆ ให้ทีมได้ 2-3 ครั้ง
เป็นผู้ปิดเกมลงอย่างเด็ดขาด หลังจากควบระยะไกลกร่วมครึ่งสนาม และบรรจงปั่นผ่านผู้รักษาประตูอย่างเลือดเย็น
a
ดิโอโก้ โชต้า – 7
โชว์ผลงานได้ดีในช่วงท้ายเกม แต่มีจังหวะลังเลหลายครั้ง และฝืนเล่นในบางลูกซึ่งควรจะส่งง่ายๆ มากกว่า
น่าจะทำประตูได้ในช่วงครึ่งแรก แต่ไม่นิ่งพอจากการเข้าสกัดของผู้รักษาประตู
ลูกจับบอลและวอลเล่ย์ทำได้อย่างยอดเยี่ยมและเกือบเป็นประตู หลังจากนั้นยิงลูกไขว้หน้าปากประตูตีเสมอได้อย่างสวยงาม
และน่าจะทำได้อีกประตูในครึ่งหลัง แต่โชคร้ายบอลพุ่งเข้าชนเสา นอกจากนั้นเขาช่วยทีมแย่งบอลมาได้หลายครั้งเช่นเดียวกัน
a
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ – 8

เริ่มเกมได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ไม่มักจะเลือกไม่ยิงประตูเอง เช่นเดียวกับช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
แต่ในช่วงทดเวลาพิเศษของครึ่งแรก เขาย้ำเตือนตัวเองและคนอื่นๆ ว่า เขาเป็นศูนย์หน้าอย่างแท้จริง โดยการโขกพังประตูที่เสาสองอย่างงดงาม
ทำได้ 2 ประตู ขยันทุ่มเท และจ่ายบอลสวยๆ ให้เพื่อนตลอดทั้งเกม
a
ตัวสำรอง

ซาดิโอ มาเน่ (แทน “โชต้า” 73′) – 6
วิ่งทำทางได้ดี เกือบทำได้ 1 ประตู
เคอร์ติส โจนส์ (แทน “ไวจ์นัลดุม” 73′) – 7
เป็นผู้แอสซิสต์ประตูที่ 4 ของซาล่าห์
เนโก วิลเลี่ยมส์ (แทน “ซาล่าห์ ” 90+1′) – N/A
เข้าสกัดได้ดีในช่วงท้ายเกม
a
เจอร์เก้น คล็อปป์ – 9

ใช้เวลาในการบ่นกับผู้ตัดสินที่ 4 มากพอๆ กับการกำกับผู้เล่นของเขา แต่การยกเลิกลูกจุดโทษ การไม่ได้ใบเหลืองที่สองของ “แม็คโทมิเนย์” และ “คาวานี่” และเหตุการณ์อันเป็นใจกับเจ้าบ้านอื่นๆ ก็มีเหตุผลมากพอที่จะทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
ดูเหมือนจะเรียนรู้จากเกมก่อนๆ ในการปล่อยให้ “ติอาโก้” มีอิสระในการเล่น
ช่วง 10 นาทีสุดท้ายเป็นการทดสอบอันหนักหน่วงของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” และลูกทีม ซึ่งพวกเขาก็ทำได้สำเร็จ
อย่างน้อยที่สุด เขาก็นำทีมชนะที่โอลด์แทร็ฟฟอร์ดได้แล้ว ยังเหลืออีก 3 เกมที่ต้องทำให้ได้เช่นกัน!!!
คุณอาจสนใจ :
ข้อมูลนักเตะลิเวอร์พูล
ตำนานสนามแอนฟิลด์
ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ทำเนียบแชมป์
ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล
a
Our References :
2,685 total views, 1 views today