คะแนนความสามารถ เกม “ลิเวอร์พูล” บุกเชือด “เบิร์นลี่ย์” 3-0
เป็นชัยชนะอีกหนึ่งนัดที่จำเป็นอย่างยิ่ง ในการไล่ล่าพื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งในนัดนี้มีผู้เล่นหลายคนที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น
เบิร์นลี่ย์ 0
ลิเวอร์พูล 3
พรีเมียร์ลีก, สนามเทิร์ฟมัวร์
วันที่ 20 พฤษภาคม 2021 เวลา 02:15
ประตู : ฟีร์มีโน่ (43′), ฟิลลิปส์ (52′), อ็อกซเลด-แชมเบอร์เลน (88′)
a
อลิสซอน – 7
จัดการกับลูกกลางอากาศ และการเข้าปะทะของผู้เล่น “เบิร์นลี่ย์ ” ได้ดี
การออกมาชกบอลและรับบอลติดมือตอนต้นเกม นับเป็นสัญญาณที่ดี ในเกมนี้ดูเหมือนเขาจะเคลียร์บอลได้ดีกว่าคู่เซ็นเตอร์ข้างหน้าเขาเสียอีก
ออกแรงเซฟลูกสำคัญ 2-3 ครั้ง และยืนตำแหน่งได้อย่างยอดเยี่ยม
a
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ – 7
เล่นผิดพลาดบางจังหวะตอนต้นเกม แต่หลังจากนั้น เขาก็สามารถกลับมาสู่ฟอร์มมาตรฐานของเขาได้
ลูกยิงของเขาที่กระฉอกไปเข้าทาง “มาเน่” ในครึ่งแรก เกือบทำให้ทีมได้ประตู
a
แน็ท ฟิลลิปส์ – 9 (แมนออฟเดอะแมทช์ )
เขาต้องต่อสู้อย่างหนักในการรับมือกับ “คริส วู้ด” ในช่วงต้นเกม ซึ่ง “แน็ท ฟิลลิปส์ ” สามารถทำประตูแรกในสีเสื้อของ “ลิเวอร์พูล” ได้สำเร็จ
เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของ “แน็ท ฟิลลิปส์ ” อย่างแท้จริง และประตูที่เขาทำได้ในนัดนี้มีความสำคัญต่อ “ลิเวอร์พูล” เป็นอย่างมากในการลุ้นตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก
มีการตั้งคำถามมาตลอดว่า เหตุใดเขาจึงสามารถเอาชนะลูกกลางอากาศเฉพาะในแนวรับของตนเอง ทำไมจึงไม่ขึ้นไปสร้างความอันตรายที่หน้าประตูฝั่งตรงข้าม
แต่เมื่อ “ซาดิโอ มาเน่” ครอสบอลจากด้านข้างเข้ามา “แน็ท ฟิลลิปส์ ” กระโดดขึ้นโหม่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
นอกจากนั้น การโหม่งสกัดบอลออกจากเส้นประตูของเขาก็เป็นอีกเหตุการณ์สำคัญในเกม
“แน็ท ฟิลลิปส์ ” ค่อนข้างมีปัญหาไม่น้อยในการตามประกบ “คริส วู้ด” โดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก แต่เขาก็สามารถช่วยป้องกันได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเกมดำเนินไป
a
รีส วิลเลี่ยมส์ – 6
ดูค่อนข้างลังเลในการรับมือกับลูกโด่งของ “เบิร์นลี่ย์ ” และดูเหมือน “รีส วิลเลี่ยมส์ ” จะตกเป็นเป้าการโจมตีของลูกทีม “ฌอน ไดช์ “
เช่นเดียวกับ “แน็ท ฟิลลิปส์ ” ที่ไฮไลท์ในการป้องกันของเขาจะเกิดขึ้นหลังจากได้ทำบางอย่างผิดพลาดในเวลาก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นอีกคลีนชีทของพวกเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเสมอสำหรับผู้เล่นแนวรับ
a
แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – 7
วิ่งทำทางไปรับบอลจาก “ซาดิโอ มาเน่” ได้ดี ซึ่งนำไปสู่ประตูขึ้นนำ จากการผ่านบอลอย่างเฉียบคมเข้าไปที่หน้าประตู โดย “โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่” วิ่งเข้ามาชาร์ทเข้าไปได้สำเร็จ
เล่นได้ค่อนข้างแน่นอนตลอดเกม และจบเกมโดยการผ่านบอลสำคัญได้ 4 ครั้ง และทำอีกหนึ่งแอสซิสต์ให้กับประตูของ “อ็อกซเลด-แชมเบอร์เลน”
a
ฟาบินโญ่ – 6
ยังไม่ใช่วันของเขา “ฟาบินโญ่” ไม่สามารถสร้างปัญหาให้กับคู่ต่อสู้ในแดนกลางได้อย่างที่เคยเป็น
อย่างไรก็ตาม เป็นสิ่งสำคัญที่มีเขาอยู่ด้วยในเกมเช่นนี้
a
ธิอาโก้ – 8
ผ่านบอลสวยๆ ให้เพื่อเข้าลุ้นทำประตูได้หลายจังหวะ ลูกยิงไกลของเขาหลุดเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย
ส่งบอลไปข้างหน้าอย่างเฉียบคมหลายครั้ง แม้ว่าในบางลูกเขาค่อนข้างโชคดีจากทักษะการรับบอลอันสุดยอดของ “ซาล่าห์ ” อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นการจ่ายบอลลักษณะที่ทีม “ลิเวอร์พูล” ต้องการ
“ธิอาโก้” ช่วยเล่นเกมรับไม่น้อยเช่นกัน และตอนนี้เขาดูเหมือนผู้นำในทีมไปแล้ว ในเวลาที่ “จอร์แดน เฮนเดอร์สัน” และ “เจมส์ มิลเนอร์ ” ขาดหายไปเช่นนี้
a
จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม – 6
กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังจากนั่งเป็นตัวสำรองในเกมที่ “เวสต์บรอม”
จ่ายบอลได้ดี จบเกมด้วยสถิติผ่านบอลสำเร็จ 100% แม้แทบทั้งหมดจะไม่ได้ช่วยขับเคลื่อนเกมก็ตาม
a
โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ – 7
ถูกขัดขวางการเข้าทำประตูโดย “เบน มี” ในหลายจังหวะ เนื่องจากทักษะและการเคลื่อนที่ของ “ซาล่าห์ ” เป็นอันตรายต่อแนวรับของ “เบิร์นลี่ย์ ” เป็นอย่างมาก
โชว์ทักษะการจับบอลและควบคุมบอลอันสุดยอดหลายครั้ง การเคลื่อนที่ของเขามีส่วนสำคัญในการเข้าทำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงต้นเกม
พลาดโอกาสทำประตูสวยๆ 2-3 ครั้ง แต่โดยรวมแล้ว “ซาล่าห์ ” ยังคงเฉียบคมและเล่นได้คงเส้นคงวา
a
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ – 7
วิ่งเข้ายิงลูกเปิดของ “แอนดี้ โรเบิร์ตสัน” เข้าเป็นประตูขึ้นนำ แม้ว่าบอลจะพุ่งไปตรงตัวผู้รักษาประตูสำรองของ “เบิร์นลี่ย์ ” อย่าง “นอร์ริส” ก็ตาม
มีโอกาสยิงก่อนหน้านั้นจากการตอกลูกส้นของ “ซาดิโอ มาเน่” ซึ่งเขายิงไม่ค่อยถนัดและพลาดการเป็นประตู
a
ซาดิโอ มาเน่ – 6
หาจังหวะเข้าทำประตูได้ดี จากลูกยิงของ “เทรนท์ ” ที่กระฉอกออกมาเข้าทางของเขา แต่ “ซาดิโอ มาเน่” ยิงออกไปอย่างน่าเสียดาย
ตอกลูกส้นทำทางได้ดีในโอกาสยิงครั้งแรกของ “โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่” และลูกเปิดเข้ากลางของเขากลายเป็นแอสซิสต์ เมื่อ “แน็ท ฟิลลิปส์ ” ขึ้นโขกเป็นประตูที่สองของ “ลิเวอร์พูล” ได้สำเร็จ
มีหลายๆ จังหวะของ “ซาดิโอ มาเน่” ที่ส่งสัญญาณการกลับมาสู่ฟอร์มที่ดีของเขา ซึ่งหวังว่า เขาจะทำได้ดีขึ้นในเกมนัดปิดฤดูกาลที่แอนฟิลด์
a
ตัวสำรอง
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (แทน “ฟีร์มีโน่ 81′) – 7
ยิงประตูปิดท้ายอย่างสวยงามด้วยเท้าซ้าย หลังจากหลอก “เจมส์ ทาร์คอฟสกี้” จนหลังแทบหัก เป็นสัญญาณการกลับมาที่ยอดเยี่ยมของเขา
เจมส์ มิลเนอร์ (แทน “ไวจ์นัลดุม” 87′) – N/A
คอสทาส ซิมิคาส (แทน “มาเน่” 90+2′) – N/A
a
เจอร์เก้น คล็อปป์ – 8
ไม่ได้ตัดสินใจอะไรมากนักในแง่การจัดตัวผู้เล่น มีเพียง “ไวจ์นัลดุม” ที่ลงเล่นแทน “เคอร์ติส โจนส์ ” ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงตำแหน่งเดียวจากเกมที่ “เวสต์บรอม”
“อ็อกซเลด-แชมเบอร์เลน” สามารถเป็นอีกตัวเลือกในแนวรุกสำหรับเกมต่อไป ซึ่งการออกจากม้านั่งสำรองของเขาแทน “โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่” นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ “เจอร์เก้น คล็อปป์”
เป็นการจัดตัวและแผนการเล่นที่ดี ตัดสินจากจำนวนโอกาส และจำนวนประตูที่ทำได้ ชัยชนะ 3-0 เป็นผลการแข่งขันในอุดมคติ เมื่อ “ลิเวอร์พูล” อาจจำเป็นต้องใช้ผลต่างประตูได้เสียในการเบิกทางเข้าไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกก็เป็นได้
a
คุณอาจสนใจ :
ข้อมูลนักเตะลิเวอร์พูล
ตำนานสนามแอนฟิลด์
ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ทำเนียบแชมป์
ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล
a
Our References :
a
1,923 total views, 1 views today
มาเน่เล่นแทบตายได้แค่ 6 อ็อกซ์ลงมายิงตูมเดียวได้ 7