บทความลิเวอร์พูล ก่อนเกมแดงเดือด (2) ประเด็นน่าสนใจ

บทความลิเวอร์พูล ก่อนเกมแดงเดือด (2)

เป็นเวลา 11 วันหลังจากกำหนดการแข่งขันเดิม “ลิเวอร์พูล” จะกลับไปเยือนโอลด์แทร็ฟฟอร์ดอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาความหวังในการจบท็อปโฟร์ให้ได้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS ลิเวอร์พูล

วันศุกร์ ที่ 14 พฤษภาคม 2021 เวลา 02.15 (ประเทศไทย)
สนาม โอลด์แทร็ฟฟอร์ด
รายการ พรีเมียร์ลีก
ผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์

หลังการประท้วงที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ก่อน ในที่สุด “เจอร์เก้น คล็อปป์” ก็ได้พาลูกทีมของเขาเดินทางกลับไปตามทางหลวงหมายเลข M62 เพื่อคว้าชัยชนะครั้งแรกในรอบ 2,615 วัน ที่สนามโอลด์แทร็ฟฟอร์ด

จากสถิติมันไม่ใช่สนามที่น่าอภิรมย์ของ “ลิเวอร์พูล” เลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยเป้าหมายในการจบท็อปโฟร์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยเข้าไปทุกที พวกเขาจึงจำเป็นต้องหยุดสถิติดังกล่าวลงให้ได้

มันเป็นการต่อสู้อันยากลำบาก แต่สิ่งเดียวที่ “ลิเวอร์พูล” ทำได้ในตอนนี้ก็คือ เอาชนะให้ได้ในแต่ละเกม และภาวนาให้ทีมคู่แข่งขันทำพลาด

ทีมของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ไม่แพ้ใครมา 5 นัดแล้ว แต่พวกเขาจำเป็นต้องชนะมากยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากชัยชนะของ “เลสเตอร์ ซิตี้” เหนือ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

a

อัพเดทตัวผู้เล่น

ทีมชุดที่เอาชนะ “เซาแธมป์ตัน” ไป 2-0 น่าจะถูก “เจอร์เก้น คล็อปป์” เรียกใช้งานอีกครั้ง โดยมี 4 คนที่ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะมีรายชื่อด้วยหรือไม่

ก่อนการคิกออฟสุดสัปดาห์นี้ มีรายงานการบาดเจ็บเพิ่มอีก 4 ราย ซึ่งได้แก่ “โอซาน คาบัค, เจมส์ มิลเนอร์, นาบี้ เกอิต้า และเบนเดวี่ส์ “

“เจอร์เก้น คล็อปป์” จะต้องขบคิดว่า เขาจะคงให้ “รีส วิลเลี่ยมส์ ” และ “แนท ฟิลลิปส์ ” ยืนเป็นเซนเตอร์คู่ หรือว่าจะถอย “ฟาบินโญ่” ลงไปยืนแทน

“โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่” น่าจะกลับมาสู่ 11 ตัวจริงอีกครั้ง หลังจากถูกพักในเกมกับ “นักบุญ” ขณะที่ “เคอร์ติส โจนส์ ” ก็ออกจะได้ออกสตาร์ทเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกมที่พ่ายให้กับ “เชลซี” ในเดือนเมษายน

a

สถิติเยือนโอลด์แทร็ฟฟอร์ด 5 นัดหลังสุด

แพ้ 3-2 (มกราคม 2021 – กรีนวู้ด, แรชฟอร์ด, แฟร์นันด์ส – ซาล่าห์ x2)
เสมอ 1-1 (ตุลาคม 2019 – แรชฟอร์ด – ลัลลาน่า)
เสมอ 0-0 (กุมภาพันธ์ 2019)
แพ้ 2-1 (มีนาคม 2018 – แรชฟอร์ด x2 – ไบยี่ OG)
เสมอ 1-1 (มกราคม 2017 – อิบราฮิโมวิช – มิลเนอร์ จุดโทษ)

a

คุณทราบหรือไม่?

ตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาลที่ผ่านมา สามแนวรุกของ “ลิเวอร์พูล” ยิงใส่ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” รวมกันได้เพียง 4 ประตู รวมทุกรายการ

นั่นคิดเป็นจำนวนเกมทั้งหมด 22 นัด ระหว่างทั้ง 2 ทีม ในช่วงเวลาดังกล่าว โดย “โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ ” ทำไปได้ 3 ประตู ซึ่ง 2 ประตูในนั้นเกิดขึ้นในเกมเอฟเอคัพตั้งแต่เดือนมกราคม

มันไม่ใช่สถิติที่น่ายินดีแม้แต่น้อย และด้วยผลงานยิงประตูอันฝืดเคืองในฤดูกาลนี้ พวกเขาจะต้องค้นหา “สตั๊ดทองคำ” ให้พบโดยเร็วที่สุดสำหรับนัดนี้